ทางการฟิลิปปินส์เร่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไต้ฝุ่นโคนีพัดถล่ม ขณะที่หลายฝ่ายคาดพายุลูกนี้อาจมีความรุนแรงที่สุดในโลกประจำปีนี้
ทางการฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงจากไต้ฝุ่นโคนี ซึ่งจะพัดถล่มกรุงมะนิลาและอีก 14 จังหวัดของฟิลิปปินส์ตั้งแต่คืนวันเสาร์ (31 ต.ค.) ท่ามกลางความกังวลถึงความเสียหายที่อาจจะรุนแรง เพราะมีการประเมินว่า ไต้ฝุ่นโคนีน่าจะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในโลกประจำปีนี้
หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาประเมินว่า ไต้ฝุ่นโคนีเป็นพายุความรุนแรงระดับ 5 กำลังเคลื่อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ด้วยความเร็ว 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอาจเป็นพายุที่ถล่มฟิลิปปินส์รุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ซึ่งในตอนนั้นมีผู้เสียชีวิตมากถึงกว่า 6,300 คน
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่เผชิญพายุราว 20 ลูกต่อปี ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไต้ฝุ่นโมลาเบก็เพิ่งพัดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก บ้านเรือนตามเส้นทางพายุเสียหาย และมีรายงานผู้เสียชีวิต 22 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า บางพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นโมลาเบ ก็มีแนวโน้มจะต้องเผชิญความรุนแรงของไต้ฝุ่นโคนีอีกด้วย
การเผชิญพายุติดต่อกันซ้ำเติมชาวฟิลิปปินส์ที่กำลังประสบความยากลำบากจากวิกฤติการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยสะสมในประเทศราว 380,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 7,000 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพยายามป้องกันการแพร่ระบาดภายในศูนย์อพยพ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่บางส่วนออกมาแสดงความกังวลว่า ทางการอาจไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชนแล้ว
