กรุงมาดริด ประเทศสเปนอาจกลายเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ประกาศยกเลิก “เขตปล่อยควันเสียต่ำ” หลังคะแนนความนิยมของพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่มองว่ารถติดเป็นเรืองปกติพุ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้มาดริดที่นำโดยมานูเอลลา คาร์เมนา นักการเมืองท้องถิ่นฝ่ายซ้าย มีรูปแบบการลดมลพิษในเมืองหลวงด้วยการสร้างโครงการ “Madrid Central” จำกัดจำนวนรถยนต์ที่เข้าเมือง ผลปรากฎว่าที่ผ่านมาลดปริมาณรถยนต์ลงได้ 24% ลดปริมาณไนโตรเจนอ็อกไซต์ได้ 38% และลดการปล่อยคาร์บอนไดน์ออกไซต์ลง 14% นับว่าประสบความสำเร็จมาก
แต่ขณะนี้มาดริดกำลังจะเลือกนายกเทศมนตรีใหม่ คาดกันว่าพรรคประชาชน (Popular party) จะได้คะแนนนำ แต่ปัญหาคือ อิซาเบล ดิอาซ อายูโซ ที่คาดว่าจะกลายเป็นผู้นำคนใหม่ของพรรคในแคว้นมาดริด เชื่อว่าการที่รถติดยามค่ำคืนถือเป็นสเน่ห์ของเมืองและพยายามล้มโครงการ “Madrid Central” ที่จำกัดเวลาเข้าเมืองของรถยนต์เพื่อช่วยลดมลพิษ
“ฉันไม่คิดว่ารถติดน่ารื่นรมย์เท่าไหร่ แต่มันเป็นสัญลักษณ์ของอัตลักษณ์เมืองของเรา ว่าท้องถนนคึกคักอยู่เสมอ” เธอให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เอลปาอีส “รถติดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวมาดริด”
บทสัมภาษณ์ดังกล่าวสร้างแรงต้านจากฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากมลพิษพุ่งถึง 30,000 คนต่อปี ตามรายงานขององค์การสิ่งแวดล้อมแหงยุโรป
นูเรีย บลาสเกส ซานเชส โฆษกกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมกล่าวว่าที่ผ่านมาโครงการ Madrid Central ประสบความสำเร็จมากในการลดมลพิษ การล้มโครงการนี้จะมีผผลร้ายแรงต่อสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะคนที่เสี่ยงเช่น เด็กหรือคนท้อง
มานูเอลลา คาร์เมนา นักการเมืองท้องถิ่นที่เสนอนี้เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนในพื้นที่ แต่ไม่มีแนวร่วมพรรคการเมืองเพื่อตั้งรัฐบาลประจำแคว้นมาดริด คาดว่าฝ่ายพรรคอนุรักษ์นิยมจะรวมเสียงตั้งรัฐบาลสำเร็จแทน









