รีวิว Triangle of Sadness มันยอร์ชมาก เงิน อ้วก อำนาจ และความเท่าเทียมอันแสนเศร้า

รีวิว Triangle of Sadness มันยอร์ชมาก เงิน อ้วก อำนาจ และความเท่าเทียมอันแสนเศร้า

บันเทิง

รีวิว Triangle of Sadness มันยอร์ชมาก เงิน อ้วก อำนาจ และความเท่าเทียมอันแสนเศร้า

Triangle of Sadness มันยอร์ชมาก เป็นภาพยนตร์เจ้าของรางวัลปาล์มทอง ผลงานของ Ruben Östlund ที่เสียดสีสังคมได้อย่างสนุกจัดจ้านสะใจ ไล่แซะเริ่มไปตั้งแต่ความเท่าเทียมทางเพศ ไปจนถึงชนชั้น สมกับชื่อเรื่องที่บ่งบอกว่าสื่อถึงสามเหลี่ยมปิรามิดแห่งชนชั้นที่น่าเศร้า ผ่านมุมมองของ ญาญ่า (รับบทโดย Charlbi Dean Kriek) และ คาร์ล (รับบทโดย Harris Dickinson) ในช่วงแรกของเรื่องก่อนจะถูกสมทบด้วยนักแสดงฝีมือเยี่ยมอีกมากมาย ที่มาร่วมกันขยายประเด็นของชนชั้นและความเท่าเทียมที่เรื่องต้องการจะนำเสนอให้ใหญ่ขึ้นตามเวลาของเรื่องท่ีเดินไป

[เนื้อหาในบทความต่อจากนี้มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วน]

Triangle of Sadness ถูกแบ่งเรื่องเป็นสามองก์ ที่ปูเรื่องด้วยการนำเสนอความย้อนแย้งของนิยามของคำว่า ‘เท่าเทียม’ ในสมัยนี้ ในองก์แรกผ่านทางญาญ่า นางแบบสาวผู้ประสบความสำเร็จ และคาร์ล นายแบบหนุ่มผมทองตาฟ้าผู้กำลังอยู่ในช่วงขาลง กลิ่นไหม้ของการเสียดสีเริ่มฟุ้งมาตั้งแต่ตอนแรกในฉากที่คาร์ลไปแคสต์งาน และชัดจนเตะจมูกในฉากการเดินแบบของญาญ่าที่ คำว่าเท่าเทียม นั้นถูกนำไปฉายขึ้นจอ ประหนึ่งคำนี้เป็นแค่เทรนแฟชั่นที่ผ่านมาและอาจจะผ่านไปในซีซั่นหน้า ก่อนจะกระจายไปทั่วใน ฉากมี้ออาหารของทั้งสองที่นำมาสู่การทุ่มเถียงกันเรื่องเงิน สิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและธำรงชีวิตคู่ แต่คนไม่พูดกันเพราะพอพูดเรื่องเงินมันทำให้คนดู ‘ไม่เซ็กซี่’ และการที่ญาญ่าถึงจะบอกว่าเธอใจกว้างและรักความเท่าเทียม แต่ก็ยังอยากให้คาร์ลจ่ายค่าอาหารและการกินอยู่ของเธออยู่ดีก็ สะท้อนความย้อนแย้งของผู้หญิงบางกลุ่มที่เรียกร้องความเท่าเทียมแต่เมื่อมาถึงเรื่องเงินกลับต้องการให้ผู้ชายเลี้ยง ส่วนอาการรักษาหน้าและโกรธเพราะอีโก้ความเป็นชายมันถูกท้าทายในช่วงหลังขององก์แรกนั้นก็สื่อถึง ความต้องการความเท่าเทียมในเรื่องเงิน แต่ก็ยังคงกระหายสภาวะผู้นำและคนหาเลี้ยงอยู่ในส่วนลึก และการคืนดีของทั้งสองคนเพื่อรักษาภาพลักษณ์ในโซเชียลมีเดียและผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายก็เป็นการเสียดสีค่านิยมด้านความรักของคนในยุคนี้ได้อย่างแสบสันต์

องก์ที่สองนั้นพูดถึงความเท่าเทียมและสถานการณ์การเมืองในภาพที่ใหญ่ขึ้นระดับโลกที่ถูดย่อส่วนเหลือเพียงแค่เรือยอร์ชที่แล่นอยู่กลางทะเล มีชนชั้นแรงงานที่ไม่ค่อยมีบทเท่าไหร่ถูกแทนตัวด้วยแม่บ้านและพนักงานห้องเครื่องคอยรับคำสั่งจากชนชั้นกลาง พนักงานออฟฟิศที่ถูกแทนที่ด้วยเหล่าพนักงานหน้าตาดีผมทองตาฟ้า ในเรือที่ถูกควบคุมด้วยเหล่าเศรษฐีจากชาติต่าง ๆ และชาวอเมริกันที่ทำหน้าที่กัปตันควบคุมทุกชีวิตที่อยู่บนเรือ ล็อกห้องนั่งเถียงไฟแล่บอยู่กับเศรษฐีชาวรัสเซีย ทำให้ภาพดูไม่ต่างกับโลกเราทุกวันนี้ที่อยู่ในสงครามที่ถูกชักเชิดโดยทั้งสองชาตินี้สักเท่าไหร่ นอกจากบริบทเรื่องการเมืองแล้วการเสียดสีเรื่องชนชั้นที่เริ่มมาจากองก์หนึ่งก็ยังคงอยู่ และเห็นได้ชัดในฉากที่น่าจะติดอันดับฉากน่าประทับใจของเรื่อง เมื่อเมียเศรษฐีอยากให้รางวัลพนักงานบทเรือ ด้วยการทำให้พวกเขาได้เล่นน้ำ และ ‘ มีความสุขกับชีวิต’ เหมือนกับที่เธอกำลังมี เธอจึงใช้อำนาจของความเป็นลูกค้าในการ ‘บังคับ’ ให้พนักงานทั้งเรือต้องหยุดงานทุกอย่างแล้วเปลี่ยนชุดมาเล่นน้ำ ในขณะที่เธอยืนชอบอกชอบใจ และเป็นสุขกับการได้เป็น ‘ผู้ให้’ อยู่บนดาดฟ้าเรือ

ถ้าองก์หนึ่งและสองเป็นการวิพากย์วิจารณ์​สังคมที่เราอยู่ องก์สุดท้ายก็นับเป็นการเอาปิรามิดแห่งชนชั้นมากลับหัวกลับหางปักลงดินให้คนดูได้ชมในตอนท้าย เมื่อเรืออับปางลงและคนที่เหลือรอดต้องมาใช้ชีวิตบท ‘เกาะร้าง’ ซึ่งเปรียบเสมือนโลกเมื่อถอดลำดับชั้นในสังคมทิ้งไปและรีเช็ตทุกอย่างใหม่ซึ่งทำให้ผู้ชมเห็นว่าทุนนิยม เงินตรา ของนอกกายนั้นไร้สาระเพียงใด และทำให้เห็นว่าเมื่ออำนาจตกอยู่ในมือของคนที่เคยเป็นเบี้ยล่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง ฉากในองก์ที่สามซึ่งพาให้ผู้ชมขำขื่นได้มากที่สุดเห็นจะเป็นฉากที่อบิเกล (รับบทโดย Dolly De Leon) และญาญ่าค้นพบว่าเกาะที่พวกเขาอยู่นั้น เป็นเพียงรีสอร์ตที่จำลองธรรมชาติขึ้นมาเฉย ๆ และอบิเกล ผู้กลัวการสูญเสียอำนาจที่เธอเพิ่งได้เคยสัมผัสเป็นครั้งแรกนั้น พยายามยื้อเวลาทุกวินาทีเพื่อที่จะไม่กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง เพราะเพียงแค่เธอก้าวเท้าเข้าไปในลิฟท์ ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นมา 

แต่สิ่งที่ตลกร้ายยิ่งกว่าภาพยนตร์ คือเมื่อผู้ชม นักวิจารณ์ และแม้แต่ตัวผู้เขียนเอง ที่หลังจากหัวเราะไปกับเหตุการณ์ในเรื่อง เห็นใจอบิเกล (รับบทโดย Dolly De Leon) แม่บ้านที่ผลิกมาเป็นชนชั้นสูงสุดของสังคม และนึกด่าตัวละครที่เหลือในใจแล้ว ก็เดินออกจากโรงภาพยนตร์ที่หรูหรานั่งสบายไม่แพ้เรือในเรื่อง กลับมาสู่สังคมที่มีชนชั้น social polarisation คนรวยก็รวยจัด คนทำงานก็ลืมตาอ้าปากไม่ได้ โดยที่ส่วนใหญ่ก็คงได้แต่ปล่อยตัวไปกับโลกที่หมุนไปด้วยความเท่าเทียมจอมปลอมนี้อย่างไม่อาจต้านทานได้ 

ชม Triangle of Sadness ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

วาดฝัน Writerวาดฝัน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง