รัสเซียฉลองปีใหม่ด้วยสงคราม เดินหน้าถล่มยูเครนไม่หยุด ทำพลเรือนต้องใช้ชีวิตในความมืดมิด

รัสเซียฉลองปีใหม่ด้วยสงคราม เดินหน้าถล่มยูเครนไม่หยุด ทำพลเรือนต้องใช้ชีวิตในความมืดมิด

ขณะที่ทั่วโลกกำลังมีความสุขกับการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ชาวกรุงเคียฟและหลายเมืองทั่วยูเครนต้องใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมิดและหวาดผวา หลังกองทัพรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธและโดรนจำนวนมากถล่มโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ โดยเฉพาะระบบจ่ายพลังงาน ทำให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่มาต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่วันส่งท้ายปีเก่าจนล่วงมาถึงวันที่สองของปีใหม่ 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ในยูเครน ขณะล่วงเข้าสู่วันที่สองของปี 2023 กองทัพรัสเซียยังคงระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟออกมาเปิดเผยว่า มีโดรนจำนวนมากถูกยิงเข้าใส่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญทั้งในและบริเวณโดยรอบของเมืองตั้งแต่ช่วงกลางดึกต่อเนื่องมาจนถึงเช้าตรู่วันจันทร์ (2 ม.ค.) ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง 

การเปิดเผยของ วิตาลี คลิทช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ สอดคล้องกับข้อมูลจากกองทัพอากาศยูเครนที่ระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศได้ทำลายโดรนชาเฮด (Shahed) ที่ผลิตในอิหร่านและกองทัพรัสเซียนำมาใช้ไปทั้งหมด 39 ลำในช่วงเวลาเพียงชั่วข้ามคืน โดยโดรนเหล่านี้ถูกยิงเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยูเครน 

คลิทช์โก ระบุในเทเลแกรมว่า การโจมตีของยูเครนทำให้อุปกรณ์ทำความร้อนในบางพื้นที่ถูกตัดขาดจากการจ่ายกระแสไฟ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ แต่ระบบจ่ายน้ำประปาของเมืองยังคงทำงานได้ตามปกติ 

การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งยกองทัพยูเครนได้ออกมาระบุว่าเป้าหมายของรัสเซียคือการระดมทำลายโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกพื้นที่ในยูเครนต้องตกอยู่ในความมืดมิด ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ขณะที่ทางการยูเครนต้องเร่งระดมซ่อมแซมระบบและเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงข่ายระบบจ่ายกระแสไฟฟ้า 

โดยเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงด้วยการยิงขีปนาวุธมากกว่า 100 ลูกถล่มหลายเมืองสำคัญทั่วยูเครน ซึ่งถูกระบุว่านับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่สงครามเริ่มปะทุขึ้น หลังจากนั้นก็มีการโจมตีอย่างรุนแรงเกิดขึ้นตามอย่างไม่หยุดหย่อน

ล่วงมาถึงวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปี 2022 รัสเซียได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทั่วยูเครนอีกครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน และได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน ขณะเดียวกันยังมีรายงานมาจากสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักว่า ในชั่วโมงแรกหลังล่วงเข้าสู่ปี 2023 เสียงไซเรนเตือนภัยได้ดึงกึกก้องขึ้นอีกครั้งทั่วกรุงเคียฟ จากปฏิบัติการทางอากาศของรัสเซีย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการโจมตีในวันขึ้นปีใหม่

การโจมตีที่เกิดขึ้นในวันนี้ มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ส่งสัญญาณว่าจะไม่ยอมแพ้ในการโจมตียูเครน ขณะกล่าวสุนทรพจน์ในวันขึ้นปีใหม่ โดยระบุว่า “การปกป้องดินแดนปิตุภูมิเป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ต่อบรรพบุรุษและลูกหลานของเรา ความถูกต้องชอบธรรมทางประวัติศาสตร์จะอยู่ข้างเรา”

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ออกมาแถลงเมื่อเย็นวันอาทิตย์ (1 ม.ค.) ตอบโต้ปูติน โดยกล่าวไปถึงชาวรัสเซียว่า ผู้นำของพวกเขากำลังทำลายประเทศรัสเซีย 

ผู้นำของพวกคุณต้องการแสดงให้พวกคุณเห็นว่า เขากำลังนำทัพอยู่ที่แนวหน้า และกองทัพของเขาอยู่เบื้องหลังเขา แต่จริง ๆ แล้ว เขากำลังหลบอยู่ เขาหลบอยู่หลังกองทัพของเขา ขีปนาวุธของเขา กำแพงบ้านพักและวังของเขา เขากำลังหลบอยู่หลังพวกคุณ เขากำลังเผาประเทศของคุณและอนาคตของคุณ ไม่มีใครจะให้อภัยพวกคุณจากความโหดร้าย ไม่มีใครในโลกจะให้อภัยพวกคุณสำหรับเรื่องนั้น ยูเครนจะไม่ให้อภัย” เซเลนสกีระบุเป็นภาษารัสเซียเพื่อส่งสารไปยังชาวรัสเซีย 

นอกจากนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ เซเลนสกียังกล่าวขอบคุณชาวยูเครน และทหารในกองทัพที่มีความพยายามอย่างเหลือเชื่อในการต้านทานการรุกรานของรัสเซีย พร้อมกับระบุว่า ความพยายามใดๆ ของรัสเซียจะไร้ประโยชน์ 

“เราสู้เป็นทีมเดียวกัน ทั้งประเทศ ทุกภูมิภาคของเรา ผมชื่นชมพวกคุณทุกคน ผมอยากจะขอบคุณภูมิภาคของยูเครนทุกแห่งที่ยังยืนหยัดอยู่ได้” ผู้นำยูเครนระบุ พร้อมกล่าวว่า “โดรน ขีปนาวุธ และสิ่งอื่น ๆ จะไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ เพราะเรายืนหยัดร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว แต่พวกเขารวมกันเพียงเพราะความหวาดกลัวเท่านั้น”

 

ที่มา Reuters, VOA, BBC

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง