ประเด็นร้อนในตลาดหุ้นไทยช่วงนี้คงหนีไม่พ้น ‘การขายชอร์ต’ (Short Sell) ที่ทำนักลงทุนรายย่อยว้าวุ่นใจไม่เว้นวัน
แม้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะพยายามเรียกความเชื่อมั่นคืน ออกมาตรการกำกับดูแล แต่ด้วยภาวะตลาดหุ้นไทยที่ไม่ค่อยสู้ดี บรรยากาศการลงทุนจึงอึมครึมต่อเนื่อง
TODAY Bizview ชวนทุกคนไปทำความเข้าใจว่าการทำ Short Sell คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นตัวร้ายในสายตาของเหล่านักลงทุน
[ Short Sell = ยืม (หุ้น) ก่อนคืนทีหลัง ]
Short Sell คือ การยืมหุ้นมาขายเพื่อลงทุนในช่วงที่ดัชนีอยู่ในทิศทางขาลง ซึ่งเป็นกลยุทธ์การลงทุนหนึ่งที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงอย่างรุนแรง
โดยนักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีหุ้นตัวนั้นอยู่ในพอร์ต แต่สามารถไปยืมหุ้นจากโบรกเกอร์ที่ตัวเองเปิดบัญชีซื้อขายอยู่มาทำการขายออกไปก่อน
หลังจากนั้น หากราคาหุ้นปรับลดลงตามที่ประเมินเอาไว้ นักลงทุนก็จะสามารถทำการซื้อหุ้นตัวนั้นในราคาที่ต่ำกว่าตอนที่ยืมมาแล้วนำไปคืนให้โบรกเกอร์เพื่อทำกำไรได้
ซึ่งหลักการ Short Sell ที่ถูกต้องนั้น นักลงทุนจะต้องมีหลักฐานการยืมหุ้นจริงจากโบรกเกอร์ และต้องสามารถตรวจสอบได้
[ Naked Short Sell = ขายหุ้นที่ไม่มีจริง ]
Naked Short Sell มีหลักการเหมือนกันกับการทำ Short Sell ทั่วไป แต่ความแตกต่างคือ เป็นการขายชอร์ตแบบเปล่าๆ หรือการขายหุ้นออกไปโดยที่ไม่ได้มีการยืมหุ้นมาก่อน
การทำแบบนี้ถือว่าไม่เป็นธรรมและผิดกฎหมาย มีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ โดยเฉพาะโบรกเกอร์ที่เป็นผู้ดูแลบัญชี หากตรวจสอบและพบว่าไม่มีหลักฐานการยืมหุ้นจริง โบรกเกอร์จะมีความผิดทางวินัยทันที
ทั้งนี้ การทำ Naked Short Sell มักมีมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างสูง จึงมีเอฟเฟคต่อราคาหุ้นและตลาดหุ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยกังวลจนนัดหยุดเทรด
[ ตลาดหุ้นไทยโดน Short Sell ป่วน ]
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า การทำ Short Sell ในลักษณะ Naked Short นั้น ทำให้นักลงทุนรายย่อยเกิดความกังวลอย่างหนักถึงขั้นนัดกันหยุดเทรดหุ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออกมายืนยันว่า จากการตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายที่ผิดปกติที่ผ่านมานั้น ไม่พบการทำ Short Sell ที่ผิดกฎหมาย หรือไม่พบ Naked Short Sell นั่นเอง
พร้อมชี้แจงว่า การทำ Short Sell ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นร่วง สะท้อนจากข้อมูลการทำ Short Sell ในปีนี้ เทียบกับมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด มีสัดส่วนเพียง 5.6% เท่านั้น เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่สัดส่วน 5.4% ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
[ ตลท.อุดช่องโหว่คุมเข้ม Short Sell ]
แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะออกมานั่งยันนอนยันว่าไม่พบความผิดปกติจากการทำ Short Sell แต่นักลงทุนรายย่อยบางกลุ่มก็ยังคงเคลื่อนไหว โดยออกมาประกาศว่า จะมีการนัดรวมตัวกันหยุดเทรดหุ้นกันอีก
ทั้งนี้ ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องลุกขึ้นมาเพิ่มความเข้มข้นในการกำกับดูแลการทำ Short Sell ให้มากขึ้นเป็นพิเศษกว่าเก่าเพื่อให้นักลงทุนเกิดความสบายใจ
โดยเริ่มจากจะมีการตรวจสอบบัญชีประเภท Omnibus หรือบัญชีกองทุนรวมแบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นช่องโหว่ที่ทำให้เกิด Naked Short Sell
ผ่านการสั่งโบรกเกอร์ให้ส่งหลักฐานยืมหุ้นของลูกค้าที่ขายชอร์ตภายใน 15 วัน ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการทำ Naked Short Sell และจะมีการดำเนินการทางวินัยกับโบรกเกอร์ต่อไป
[ ยืนยันว่าตรวจหมดไม่สนลูกใคร ]
ขณะที่การทำ Naked Short Sell นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอทุกวันลงในระดับธุรกรรม รวมถึงลำดับเวลาที่ส่งคำสั่งซื้อขายภายในวันนั้นๆ ในทุกช่องทางที่คำสั่งซื้อขายถูกส่งเข้ามาในระบบ
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะตรวจสอบทั้งนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนในประเทศ ไม่ว่าจะใช้โปรแกรมเทรดหรือไม่ใช้ก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด Naked Short Sell
สุดท้ายคือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ บอกว่า ทุกวันนี้มีการเปิดเผยข้อมูลรายวัน สำหรับตรวจสอบการทำธุรกรรม Short Sell โดยนักลงทุนทุกคนสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ทุกวันผ่านบนเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
ต้องบอกว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ เองก็มีความพยายามอย่างเต็มที่ ในการคุมเข้มและเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุน
หลังจากนี้คงต้องรอดูต่อไปว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสามารถดึงความเชื่อมันของนักลงทุนกลับมาได้หรือไม่…










