หน่วยงานในเซาเปาโลชี้วัคซีนของซีโนวัคมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะผ่านการอนุมัติ ขณะที่สื่อตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส หลังบริษัทจีนไม่ยอมให้รายงานตัวเลขที่แท้จริง
วันที่ 23 ธ.ค. 2563 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานการเปิดเผยข้อมูลบางส่วนของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดย ซีโนวัค (Sinovac) บริษัทยาสัญชาติจีน จากนักวิจัยที่ทำการทดสอบในบราซิล โดยระบุว่าวัคซีนตัวนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสูงพอที่จะผ่านการอนุมัติให้ใช้งานในกรณีฉุกเฉินที่บราซิลได้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขเลขที่ชัดเจนและรายละเอียดอื่นๆ เนื่องจากทางบริษัทส่งคำขอให้เลื่อนการรายงานออกไปก่อน
หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับด้านสุขภาพของบราซิลกำหนดไว้ว่า วัคซีนที่จะได้รับการอนุมัติให้ใช้งานในกรณีฉุกเฉินได้ต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไม่ต่ำกว่า 50% ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ
เจ้าหน้าที่ของบราซิลเผยว่า ซีโนวัค ขอให้พวกเขาระงับการเปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงไปก่อน ในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 15 วันนับจากเมื่อวาน โดยให้เหตุผลว่าต้องการรวบรวมข้อมูลจากการทดสอบวัคซีนที่ประเทศอื่นๆ เสียก่อน เพื่อให้ข้อมูลที่รายงานออกมาตรงกับความเป็นจริง
การดึงเวลาออกไปในลักษณะนี้ ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของข้อมูล ซึ่งทางสำนักข่าวต่างๆ ได้พยายามติดต่อขอความเห็นจากซีโนวัคในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ
โดยสื่อที่ออกมาตอบโต้คือ โกลบอลไทมส์ (Global Times) สื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่โจมตีสื่อตะวันตกในการออกมาตั้งคำถามถึงความโปร่งใส พร้อมทั้งยืนยันว่าการเลื่อนรายงานตัวเลขครั้งนี้ไม่ใช่ความพยายามในการทำข้อมูลปลอม แต่ต้องรอผลทดสอบจากประเทศอื่นอย่างตุรกีและอินโดนีเซียเสียก่อน
ตามรายงานระบุว่า ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิตู้เย็นปกติได้ ทำให้วัคซีนของซีโนวัคเหมาะสมกับการใช้งานในประเทศกำลังพัฒนา มากกว่าของ ไฟเซอร์ (Pfizer) และ โมเดอร์นา (Moderna) ที่ต้องขนส่งในอุณหภูมิติดลบ
บราซิลมีแผนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนตัวนี้ให้กับประชาชนได้ในวันที่ 25 มกราคม 2564 หากได้รับอนุมัติทันเวลา และวัคซีนหลายล้านโดสถูกส่งไปที่เมืองเซาเปาโลในบราซิลเรียบร้อยแล้ว










