“ฟังร่างกายก่อนจะสายเกินไป” การแบ่งปันประสบการณ์ ของอินฟลูเอนเซอร์ อย่าง Birdie Parva กับการเป็น Stroke ในวัยเลขสาม จนมีผู้เข้าชมในแพลตฟอร์มเดียว กว่า 4 ล้านครั้ง ทำให้ความน่ากลัว ของ โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน (Stroke) กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวออกไปว่า กินน้ำน้อย พักผ่อนน้อย ทำงานนอนดึกตื่นเช้า และเครียดตลอดเวลา เป็น ‘ไลฟ์สไตล์แย่ๆ’ ที่มัดเป็นตัวเธอในวันนั้น
และถึงจะรอดมาได้อย่างปฏิหาริย์ แต่เซลล์สมองที่เสียหาย 20% ทำให้เธอต้องใช้เวลาไปกับการฟื้นตัว คล้ายกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
ทว่า สิ่งที่จะข้ามไปไม่ได้ คือ ‘Golden Time’ ที่คนรอบข้างของเธอมอบให้ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่ พญ.พิมลพรรณ วิเสสสาระกูล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านอายุรแพทย์ระบบประสาทและสมอง รพ.เวิลด์เมดิคอล ส่งสัญญาณให้ ‘รู้ทันสัญญาณเตือน’ ป้องกันก่อนเกิดอัมพาต’
[รู้จัก ‘โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน’ กันอีกครั้ง]
โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน (Stroke) คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เนื่องจากการอุดตันของหลอดเลือด ส่งผลให้สมองบางส่วนขาดออกซิเจน และสารอาหารอย่างเฉียบพลัน ทำให้เซลล์สมองเสียหาย หรือทำงานผิดปกติ
โรคดังกล่าวนี้ ถือเป็นหนึ่งในโรคอันตรายที่เกิดขึ้นฉับพลัน เป็นสาเหตุหลักของโรคอัมพฤกษ์และอัมพาต มักพบร่วมกับโรคอื่น เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเคยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน
นั่นเอง พญ.พิมลพรรณ ถึงมีข้อแนะนำให้ หมั่นสังเกตอาการและความผิดปกติที่เกิดขึ้น จากสัญญาณดังนี้
- ตาพร่า มองภาพไม่ชัด
- ปวดศีรษะ บางรายอาจปวดรุนแรง
- เดินเซ ทรงตัวไม่ดี
- แขนขาอ่อนแรง
- หน้าเบี้ยวครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด
- คิดช้าลงหรือฟังไม่เข้าใจ ตอบสนองช้า
สำหรับสาเหตุและปัจจัยเสี่ยง ก็มักอยู่ในกลุ่มของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้มีไขมันในเลือดสูง รวมไปถึงผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว พญ. พิมลพรรณ กล่าวว่า ในการรักษาโรคผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที ภายใน 3 ชั่วโมงเมื่อเกิดอากาข้างต้น ซึ่งถือเป็น Golden Time ของโรคนี้
ก่อนที่แพทย์จะรักษาเบื้องต้น ด้วยการทำให้เลือด และออกซิเจนกลับมาเลี้ยงสมองให้เร็วที่สุด ด้วยยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolysis) ทว่า ผู้ป่วยที่มาช้ากว่า 3 ชั่วโมงแต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางรักษาเลย หากแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเซลล์สมองยังไม่ตาย จากการอุดตันของลิ่มเลือด ก็ต้องใช้การใส่สายสวนหลอดเลือดสมอง
[ไม่มีทางรักษาไหนดี ไปกว่า ‘ป้องกัน’ ไม่ให้เจ็บป่วย]
พญ. พิมลพรรณ กล่าวถึงการป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิด Stroke เอาไว้ดังนี้
- ควบคุมปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้ หลอดเลือดอุดตันสมอง เป็นโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นได้ฉับพลัน และอาจร้ายแรงถึงชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที และมีแนวโน้มพบในคนอายุน้อยมากขึ้น ผู้ป่วยควรตรวจสุขภาพและดูแลร่างกายเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยง










