มีผลสำรวจน่าสนใจจาก Reuters Institute Digital News Report พูดถึงเทรนด์การเสพข่าวของคนทั่วโลก ครอบคลุม 4 ภูมิภาค และในเอเชียแปซิฟิก ประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจในรายงานด้วย
ในรายงานเริ่มต้นว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ข่าวสาร สื่อสารมวลชนมีบทบาทสำคัญมาก เพราะสถานการณ์โลกมีวิกฤตรุมเร้าทั้งค่าครองชีพ สงคราม ภาวะโลกร้อน
แต่ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมสื่อก็ต้องเจอความท้าทายทั้งอัลกอริทึมในแพลตฟอร์มที่ทำให้คนเข้ามามีส่วนร่วมกับข่าวน้อยลง ไปจนถึงความไม่มั่นคงทางรายได้ และสิ่งที่กำลังเป็นความท้าทายใหม่ที่รายงานค้นพบคือ ผู้เสพข่าวอายุน้อย เสพข่าวผ่าน TikTok มากขึ้น โดยพวกเขามีแนวโน้มเชื่อข้อมูลข่าวสารจากอินฟลูเอนเซอร์ใน TikTok มากกว่านักข่าวตัวจริง
โดยรวมแล้ว Facebook ยังเป็นช่องทางหลักในการเสพข่าวสาร 28% ของผู้บริโภคใช้ Facebook สำหรับข่าวสารแต่ถือว่าเป็นการลดลง 14 % จากจุดสูงสุดที่ 42% ในปี 2016
รองลงมาคือ YouTube ที่ 20% ตามด้วย Whatsapp (16%), Instagram (14%), Twitter (11%), TikTok (6% เพิ่มขึ้นจาก 1% ในปี 2020), Messenger (6%) และ Snapchat ( 2%)
นักวิจัยบอกว่าแม้ค่าเฉลี่ยของ TikTok จะยังค่อนข้างต่ำ แต่การใช้งานนั้นสูงกว่ามากในกลุ่มวัยรุ่นและในบางประเทศในเอเชียแปซิฟิก ละตินอเมริกา และแอฟริกา
การสำรวจยังถามถึงพฤติกรรมอื่นๆ ที่มีผลต่กวงการสื่อสารมวลชน โดย
1 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถาม (22%) เผยว่า เริ่มต้นเสพข่าวจากเว็บไซต์หรือแอป ซึ่งลดลง 10 % จากปี 2018 จุดสำคัญคือในกลุ่มคนอายุน้อย ในทุกภูมิภาค มีแนวโน้มเชื่อมต่อกับเว็บไซต์และแอปของแบรนด์ข่าวนั้นๆ น้อยกว่ากลุ่มรุ่นก่อนๆ โดยเลือกที่จะเข้าถึงข่าวสารผ่านทางช่องทางอื่น เช่น โซเชียลมีเดีย การเสิร์ช
Facebook ยังคงมีผู้ใช้มากที่สุดโดยรวม แต่อิทธิพลต่อสื่อลดลง เนื่องจาก Facebook เปลี่ยนความสนใจจากข่าวไปยังครีเอเตอร์ การค้นพบสิ่งใหม่และยังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ เช่น YouTube และ TikTok
เมื่อถามถึงการเสพข่าวสาร ผู้ให้การสำรวจบอกว่าพวกเขาสนใจคนดัง ผู้มีอิทธิพล ในโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok, Instagram มากกว่านักข่าวหรือเว็บไซต์ข่าวนั้นๆ ซึ่งต่างจาก Facebook และ Twitter ที่คอนเทนต์ข่าวสาร ยังคงเป็นแกนหลักของการสนทนาบนแพลตฟอร์ม
กล่าวคือ ถ้าเป็น Facebook, Twitter สื่อกระแสหลัก สำนักข่าว ดูมีความน่าเชื่อถือสำหรับคนใช้งานมากกว่าอินฟลูเอนเซอร์ แต่พอเป็น TikTok, Instagram, Snapchat และ YouTube อินฟลูเอนเซอร์จะเรียกความสนใจได้ดีกว่าสำนักข่าว
มีตัวอย่างหลายสำนักข่าวที่ทำได้ดีบน TikTok เช่น Planet Money ของ NPR ที่ใช้พิธีกรอายุน้อยมาดึงความสนใจ แต่ความน่ากังวลคือ TikTok ไม่มีโมเดลรายได้ให้ครีเอเตอร์ที่แน่นอน สำนักข่าวจึงยังขาดความมั่นคงทางรายแม้จะมีคนดูบน TikTok เยอะก็ตาม
นักวิจัยบอกด้วยว่า “ ผู้ใช้ Twitter มีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจกับหัวข้อข่าวหนักๆ เช่น การเมืองและข่าวธุรกิจมากกว่าผู้ใช้เครือข่ายอื่นๆ ในขณะที่ผู้ใช้ TikTok, Instagram และ Facebook มีแนวโน้มที่จะดูโพสต์สนุกๆ (หรือเสียดสี) ที่เกี่ยวข้องกับข่าวมากกว่า “
ที่มา : Business Insider, Reuters
My Country Talks ร่วมกับสำนักข่าว TODAY ขอเชิญผู้ที่มีความสนใจ เข้าร่วมกิจกรรม The World Talks ที่จะชวนคนจากหลากหลายพื้นที่ของโลกมาแลกเปลี่ยนไอเดีย เรื่องราว มุมมอง ผ่านการสนทนาออนไลน์แบบ 1:1 ในวันที่ 25 มิ.ย. 2023
ผู้เข้าร่วมจะได้รับโอกาสพูดคุยกับผู้ที่มาจากต่างวัฒนธรรม ต่างบริบท ต่างแนวคิด โดยคัดจากการตอบคำถามในแง่มุมต่างๆ ทั้งเรื่องสภาพอากาศ รัสเซีย-ยูเครน ความเท่าเทียม ผู้อพยพ และประเด็นอื่นๆ
โดยระบบจะทำการจับคู่คุณกับคนที่มีแนวคิดไม่เหมือนกับคุณ ซึ่งอาจมาจากประเทศใดก็ได้ในโลก เพื่อที่จะได้มีโอกาสพูดคุยกันผ่านทางช่องทางออนไลน์
สำหรับกิจกรรม World Talks จะมีขึ้นในวันที่ 25 มิ.ย. 2023 ปัจจุบันมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมกว่า 5,000 คน จากกว่า 100 ประเทศแล้ว
หากท่านสนใจเข้าร่วม สามารถเริ่มต้นจากการตอบคำถามด้านล่างนี้ หรือเข้าไปที่ https://www.theworldtalks.org/invite *คำถามและบทสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ
