ไต้หวันจะไม่ทน ทำแผนโต้กลับหากจีนไม่หยุดรุกรานทางอากาศ พร้อมเสนอต่อสภาในวันพรุ่งนี้
วันที่ 13 ต.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ทางกระทรวงกลาโหมไต้หวันจะนำเสนอแผนการตอบโต้การรุกล้ำน่านฟ้าโดยเครื่องบินของกองทัพจีน เข้าสู่สภาในวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.)
แหล่งข่าวของบลูมเบิร์กเปิดเผยว่าได้เห็นรายงานที่ ชิว กั๋วเจิ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไต้หวัน เตรียมไว้สำหรับกล่าวต่อสภา โดยมีข้อความระบุว่า
“เพื่อเป็นการตอบโต้การรุกล้ำของเครื่องบินกองทัพคอมมิวนิสต์จีน ที่เข้ามายังเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (Air Defense Identification Zone หรือ ADIZ) ของไต้หวัน เราจะยึดมั่นในหลักการที่ว่า ยิ่งเข้ามาใกล้เกาะมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งโต้กลับไปแรงขึ้นเท่านั้น”
แผนการนี้ถูกจัดเตรียมหลังจากที่เครื่องบินของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้บินเข้ามายังน่านฟ้าไต้หวันในเดือนนี้ รวมแล้วเกือบ 150 ลำ
#Taiwan stands on democracy's first line of defense, in the face of increasing threats from authoritarian actors. We will not give in, & will continue working with our democratic partners across the world to enhance our collective resilience. pic.twitter.com/JE7iwTprFL
— 蔡英文 Tsai Ing-wen (@iingwen) October 13, 2021
ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ได้ทวีตคลิปวิดีโอความยาว 52 วินาทีบนทวิตเตอร์ ซึ่งใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารตลอดทั้งคลิป โดยกล่าวว่า “หลังฟื้นจากปัญหาโรคระบาดได้แล้ว ฝั่งเผด็จการดูจะมั่นใจว่าแนวทางการปกครองของพวกเขานั้นปรับเปลี่ยนได้ง่ายกว่าระบอบประชาธิปไตย โดยใช้วิธีนำกำลังทหารเข้าขู่ รวมถึงบิดเบือนข้อมูล เพื่อหวังที่จะบั่นทอนความมั่นใจของเราในสถาบันประชาธิปไตย และแบ่งแยกสังคมออกเป็นสองส่วน”
“ไต้หวันยืนอยู่ในแนวหน้าของการบุกรุกครั้งนี้ เราได้ทำงานอย่างแข็งขันเพื่อต่อสู้กับการบังคับขู่เข็ญเช่นนี้ เราจะแบ่งบันประสบการณ์และทำงานร่วมกับประเทศที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน เพื่อรักษาความเป็นระเบียบในเสรีนิยมประชาธิปไตยของโลก และต่อต้านความท้าทายที่ไม่อาจคาดถึงได้ของระบอบเผด็จการอำนาจนิยม”
ทางด้าน Global Times สื่อของทางการจีนออกมาปัดทิ้งแนวคิดที่ไต้หวันจะดำเนินการตอบโต้ พร้อมกล่าวเตือนว่าหากเกิดการโจมตีเครื่องบินกองทัพจีนเมื่อไหร่ ก็พร้อมที่จะโต้ตอบด้วยกำลัง หรืออาจถึงขั้นทำสงครามเพื่อปลดปล่อยไต้หวันออกจากการปกครองของรัฐบาลชุดปัจจุบัน










