ยังมีข้อสงสังอยู่ สำหรับการเปิดบัญชีร่วมกันว่าต้องเสียภาษีอย่างไร บัญชีร่วมแบบไหนมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นภาษี และแบบไหนที่ต้องเสียภาษีสองเด้ง
TODAY Bizview ขอรวบรวมข้อมูลให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้
แต่ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า ใครก็ตามที่มีบัญชีออมทรัพย์และได้รับดอกเบี้ยเงินฝากจากธนาคารทุกบัญชีรวมกันภายใน 1 ปีปฎิทิน (1 มกราคม – 31 ธันวาคม) แล้วมียอดรวมทั้งหมดมากกว่า 20,000 บาท จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
เช่น นาย กอไก่ มีบัญชีออมทรัพย์อยู่ 3 บัญชี และได้รับดอกเบี้ยเงินฝากในปีนั้น บัญชีละ 7,000 บาท ซึ่งนำดอกเบี้ยที่ได้รับมาบวกกัน ( 7,000 x 3 ) จะได้ดอกเบี้ยเท่ากับ 21,000 บาท ซึ่งเกินที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น นาย กอไก่ จึงต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย 15% แบบนี้
อย่างไรก็ตาม การเปิดบัญชีร่วมกัน ตามนิยามของ ‘กรมสรรพากร’ จะเเบ่งเป็น 2 รูปแบบ
1.การเปิดบัญชีร่วมกันในรูปแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด คือ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคาร บัญชีเล่นหุ้น หรือคณะนักศึกษาที่เปิดบัญชีเพื่อทำงานกลุ่ม จะถูกจัดอยู่ในประเภทนี้
2.การเปิดบัญชีร่วมกันที่ไม่เข้าข่ายห้างหุ้นส่วนจำกัด คือ สามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย และพ่อแม่ที่เปิดบัญชีฝากเงินเพื่อลูก
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นในกรณีที่ 1 หรือ 2 หากมียอดรวมทั้งหมดของดอกเบี้ยเงินฝากทุกบัญชีมากกว่า 20,000 บาทขึ้นไป จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ตามกฎหมายเหมือนๆ กัน
แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ สำหรับ กรณีที่ 1 การเปิดบัญชีร่วมกันในรูปแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด นอกจากจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% แล้ว แต่เมื่อมีการแบ่งดอกเบี้ยที่ได้รับกัน หุ้นส่วนแต่ละคนจะต้องนำไปเสียภาษีบุคคลได้ต่อไปอีกครั้งหนึ่งในตอนปลายปี
ขณะที่ กรณีที่ 2 การเปิดบัญชีร่วมกันที่ไม่เข้าข่ายห้างหุ้นส่วนจำกัด เมื่อถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% จะไม่ต้องนำไปเสียภาษีบุคคลได้อีกครั้งตอนปลายปี
[ สรุปให้เข้าใจอีกรอบ ]
เพื่อนหรือคู่ค้าทางธุรกิจทั่วๆ ไป เสียภาษี ณ ที่จ่าย 15% และถ้ามีการแบ่งเงินดอกเบี้ย แต่ละคนจะต้องนำไปคำนวณรวมกับภาษีบุคคลตอนปลายปีอีกรอบ หรือ ‘เสียภาษีสองเด้ง’
สามีภรรยา และ พ่อแม่ที่ฝากเงินเพื่อลูก เสียภาษี ณ ที่จ่าย 15% ครั้งเดียว ‘ไม่เสียภาษีสองเด้ง’
ทั้งนี้ ขออธิบายการเปิดบัญชีคู่อีกครั้งหนึ่งสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
โดยใช้วิธีแบ่งจากคำเชื่อมของคู่เปิดบัญชี เช่น นายกอไก่ ‘และ’ นางขอไข่ กับ นายกอไก่ ‘หรือ’ นางขอไข่ จะแตกต่างกัน ดังนี้
- บัญชีคู่ กรณี ‘และ’ คือบัญชีที่เจ้าของบัญชีคู่ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีการรับรู้และมีการเซ็นรับรองในทุกกิจกรรมทางการเงินร่วมกัน ยกเว้นแค่ตอนฝากเงิน
- บัญชีคู่กรณี ‘หรือ’ คือบัญชีที่สามารถทำธุรกรรมหรือกิจกรรมทางการเงินกับบัญชีเพียงคนใดคนหนึ่งได้ไม่จำเป็นต้องทั้งสองฝ่าย ยกเว้นตอนปิดบัญชีที่ยังคงต้องทำร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชีร่วมใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา หรือครอบครัว คู่ค้าธุรกิจ ควรพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาเรื่องเงินในอนาคต รวมถึงคำนึงถึงกาษีที่ต้องจ่ายต่อปีด้วย










