จาก ‘นิชคุณ’ ถึง ‘Chanya’ เส้นทางฝันของเด็กไทยในโลกเค-ป๊อป

จาก ‘นิชคุณ’ ถึง ‘Chanya’ เส้นทางฝันของเด็กไทยในโลกเค-ป๊อป

บันเทิง

สร้างเสียงฮือฮาให้กับเหล่าแฟนๆ เค-ป๊อป ชาวไทยไว้ไม่น้อย หลัง 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา  YG ENTERTAINMENT ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ เปิดตัวเด็กฝึกชาวไทยวัย 14 ปี ‘Chanya’ ที่กำลังเตรียมเดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของค่ายที่มีจำนวนสมาชิกเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น ก็ทำเอาเหล่าแฟนๆ เค-ป๊อป ต่างตื่นเต้นสุดๆ 

ซึ่ง ‘Chanya’ กลายเป็นเด็กไทยคนที่ 4 ที่ได้เปิดตัวในค่าย YG ENTERTAINMENT ถือเป็นเด็กไทยอีกหนึ่งคนกำลังจะเปล่งประกายในวงการเค-ป๊อป สิ่งที่น่าสนใจก็คือ อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ค่ายเพลงใหญ่อย่าง YG ให้ความสนใจเด็กไทย พร้อมทั้งเปิดโอกาสได้เข้ามาเป็นเด็กฝึก และได้ก้าวสู่การเดบิวต์เป็นศิลปินในที่สุด

[จุดเริ่มต้นความฝัน สู่แรงผลักดันของเด็กไทย]

หากพูดถึงเด็กไทยคนแรกที่ได้มีโอกาสเดบิวต์บนเวทีเค-ป๊อปคือ ‘นิชคุณ’ หนึ่งในสมาชิกวง 2PM จากค่าย JYP ENTERTAINMENT ที่ถูกทีม Scout จากค่าย JYP เข้ามาชักชวนให้ลองไปออดิชั่น ขณะที่กำลังเรียนอยู่ที่อเมริกา 

ในตอนนั้น นิชคุณ ถือเป็นเด็กไทยคนแรกและเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถทำการออดิชั่นผ่านจากผู้เข้าออดิชั่นทั้งหมด 11 ประเทศทั่วโลก

หลังเปิดตัวในฐานะศิลปินวง 2PM ด้วยตำแหน่งวิชวลของวง และภาพลักษณ์ที่ดูโดดเด่น ยิ้มเก่ง สุภาพ อ่อนโยน ทำให้ นิชคุณ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเกาหลีใต้ จนได้ฉายาว่าเป็น ‘เจ้าชายของเมืองไทย’ และได้รับเชิญไปออกรายการของช่องเกาหลีอยู่บ่อยครั้ง พร้อมได้มีโอกาสเผยแพร่ทั้งวัฒนธรรม อาหาร ภาษา เเละสถานที่ให้คนเกาหลีได้รู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น  

ประกอบกับในช่วงนั้นกระแส ‘เกาหลีฟีเวอร์’ หรือ ‘ฮันรยูเวฟ (Hallyu Wave)’ เป็นกลยุทธ์ของรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่ส่งเสริมและสนับสนุนวงการ K-content อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น เค-ป๊อป, ซีรีส์เกาหลี, อาหาร, แฟชั่น และความงาม กลายเป็นวัฒนธรรมร่วมสมัยที่เริ่มทำให้คนทั่วโลกสนใจ

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เริ่มได้รับอิทธิพลของ ‘ฮันรยูเวฟ’ มาแบบเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์เข้ามาฉายในทีวีช่องหลักของไทย ร้านอาหารเกาหลีที่เริ่มเข้ามาเปิด เพลงที่เริ่มได้ยินตามคลื่นวิทยุ และศิลปินเค-ป๊อปวงดังที่เริ่มเข้ามาทั้ง TVXQ!, BIGBANG, SUPER JUNIOR, Wonder Girls, SNSD และอีกมากมาย

จนจุดกระแสให้เกิดกิจกรรม ‘โคฟเวอร์แดนซ์ (Cover Dance)’ ตามมา ด้วยการฝึกซ้อมในการแข่งขันโคฟเวอร์แดนซ์แต่ละครั้ง ทำให้เด็กไทยเริ่มมีความฝันและอยากจะมีโอกาสได้เดบิวต์เป็นศิลปินเค-ป๊อป 

บวกกับกระแสความโด่งดังของ นิชคุณ ในเกาหลีใต้ยิ่งทำให้ใครหลายคนเริ่มเห็นโอกาสของเด็กไทยที่ก้าวไปสู่เวทีในระดับต่างประเทศ รวมถึงค่ายเพลงในเกาหลีเองต่างก็เห็นศักยภาพของเด็กไทยผ่านความดังของ นิชคุณ เช่นกัน

จึงนำไปสู่การขยายตลาด เค-ป๊อป มาสู่ประเทศในเเถบ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) ด้วยภูมิภาคนี้เป็นตลาดใหม่มีฐานแฟนที่ใหญ่ และมีพลังสนับสนุนสูง วัฒนธรรม K-pop จึงเติบโตได้เป็นอย่างดี ตามาด้วยดอกผลอย่างกิจกรรม ทั้งการจัดคอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง การจัดประกวดโคฟเวอร์แดนซ์ รวมถึงการเปิดออดิชั่นเฟ้นหาเด็กฝึกหัดในไทย 

ทำให้เด็กไทยได้มีพื้นที่เเละมีโอกาสเข้าไปเป็นเด็กฝึกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น นิต้า ที่เคยเป็นเด็กฝึกหัดในค่าย JYP หรือ ดาด้า ที่เคยถูกวางตัวให้เป็นสมาชิกวง Baby V.O.X. รุ่นที่ 3 ในขณะคนที่ได้เดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัวเช่น จอย วง Rania, มิ้นท์ Tiny-G, สร CLC, แบมแบม GOT7, เตนล์ NCT, ลิซ่า BLACKPINK, มินนี่ I-DLE และอีกมากมาย 

แต่ที่ยิ่งสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยเพิ่มมากขึ้นคือ วงการเค-ป๊อปที่ก้าวเข้าสู่ระดับโลก จากเพลงที่ขึ้นติดชาร์ทบน Billboard จาก TOP 100 เข้าสู่ TOP 5 หรือการได้ขึ้นแสดงบนเวทีระดับโลกอย่าง Coachella ที่หนึ่งในนั้นมีชื่อ ลิซ่า จากวง ‘BLACKPINK’ เด็กไทยที่สร้างชื่อเสียงในระดับโลกเเละสร้างสถิติความสำเร็จไว้อย่างมากมายทั้งในฐานะศิลปินเค-ป๊อปและคนไทย  

ก่อนที่ต่อมาจะมีเด็กไทยได้รับโอกาสมากขึ้นที่ได้เข้าไปฝึกและได้เดบิวต์เป็นศิลปิน อย่าง ค่ายใหญ่ เช่น ภริตา และ ชิกิต้า วง BABYMONSTER จากค่าย YG, ตาต้า ที่อยู่ในกลุ่ม SM Trainees 2025 จากค่าย SM 

เเละค่ายเพลงขนาดย่อมลงมา เช่น ฮันเตอร์ วง xikers จากค่าย KQ, นัตตี้ วง KISS OF LIFE จากค่าย S2, ยอร์ช ยงศิลป์ วง POW จากค่าย GRID, อ๋อง ธนาทร วง The Wind จากค่าย With US, ปริ้นซ์ วง GHOST9 จาก Maroo และอีกมากมาย รวมไปถึงเด็กไทยที่ได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการเซอร์ไวเวิลอีกมากมายด้วย

[อุปสรรค และความยากลำบาก ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา]

แต่ฉากหลังของภาพความสำเร็จที่ผู้คนทั่วไปเห็นนั้นอาจจะไม่ได้สวยหรูเสมอไป เพราะสิ่งที่เด็กไทยต้องเจอกับความลำบากนั้นไม่น้อย ทั้งอุปสรรคทั้งด้านวัฒนธรรมและภาษา ที่ต้องเรียนรู้ภาษาเกาหลีอย่างเร่งด่วนเพื่อให้สามารถสื่อสารกับเพื่อนๆ เเละทีมงานภายในค่าย รวมไปถึงการปรับตัวให้กับวัฒนธรรมเกาหลี

ความกดดันในการฝึก และการประเมิน การแข่งขันในวงการที่สูงมาก ต่อให้เดบิวต์แล้วก็ไม่ได้การันตีว่าวงจะเป็นที่รู้จักหรือถูกยอมรับ ความห่างไกลจากครอบครัว ในการไปใช้ชีวิตอยู่ลำพังในต่างประเทศ ทำให้เส้นทางของการเป็นศิลปินไทยในต่างประเทศอาจจะเดียวดายเกินกว่าที่ใครหลายคนจะรู้

และการเผชิญกับการเลือกปฏิบัติเป็นหนึ่งในความท้าทายสำคัญที่เด็กไทยและเด็กต่างชาติในค่ายเพลงเกาหลีใต้ต้องเผชิญ แม้ เค-ป๊อป จะดูเป็นวัฒนธรรมเปิด แต่ในความเป็นจริง วงการบันเทิงเกาหลียังมีความเป็นชาตินิยมสูง 

เด็กต่างชาติที่ไม่ได้มีหน้าตาตามมาตราฐานความงามของเกาหลี หรือประพฤติตัวต่างไปกับความคาดหวัง อาจถูกมองว่า ‘ไม่เข้าใจวัฒนธรรม’ ทำให้ได้รับโอกาสหรือการยอมรับช้ากว่า และนำไปสู่การเลือกปฏิบัติทั้งทางตรงเเละทางอ้อม ไม่ว่าจะจากเพื่อนร่วมฝึก ทีมงาน หรือคอมเมนต์จากชาวเน็ต ทำให้เด็กไทยหลายคนต้องพยายามเพิ่มขึ้น 2–3 เท่า กับการฝึกในทุกด้าน เพื่อพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้ยังมีเรื่องกฏหมายและระบบรายได้ที่ไม่เป็นธรรม ทั้งจากสัญญาแบบเอาเปรียบ การหักค่าใช้จ่ายเกินจริง ส่วนแบ่งรายได้ที่ไม่เท่าเทียม การเสียภาษีมากกว่าในฐานะศิลปินต่างชาติ และแม้แต่ความคุ้มครองพื้นฐานอย่างกฏหมายแรงงานก็ดูจะไม่ได้ครอบคลุมถึงศิลปินต่างชาติ  

บทความจาก BBC ระบุว่ากฏหมายที่ไม่รับรองว่าศิลปินต่างชาติเป็น ‘แรงงาน’ อย่างกรณีของ Hanni จากวง New Jeans ที่รัฐบาลเกาหลีใต้ชี้แจงว่า Hanni ไม่ถือเป็น “ลูกจ้าง” ตามกฎหมายแรงงานของประเทศ เนื่องจากเงื่อนไขในสัญญาที่เธอลงนามไม่เข้าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น ไม่มีเวลางานที่แน่นอน และไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของนายจ้าง

ชเว จุงฮวาน ทนายความจากสำนักงาน Yulchon อธิบายว่า ศิลปินส่วนใหญ่รวมถึงนักร้อง มักถูกจัดว่าเป็น ‘ผู้รับจ้างอิสระ’ ไม่ใช่ลูกจ้างประจำ เพราะไม่มีชั่วโมงงานตายตัว และไม่ได้ทำงานในระบบสั่งการแบบพนักงานบริษัท

นอกจากนี้ รัฐบาลยังระบุว่า รายได้ของ Hanni ถือเป็นการ ‘แบ่งผลกำไร’ ไม่ใช่ ‘เงินเดือน’และเธอจ่ายภาษีในรูปแบบ ‘รายได้จากธุรกิจ’ ไม่ใช่ภาษีเงินเดือน ทนายชเวเสนอว่า เกาหลีใต้น่าจะมีกฎหมายแบบเดียวกับที่ฮอลลีวูดใช้ เช่น Talent Agency Act ซึ่งบังคับให้เอเจนซี่ต้องมีใบอนุญาต และห้ามทำสัญญาที่เอาเปรียบศิลปิน แม้จะมีการพูดคุยเรื่องการปฏิรูปกฎหมายในวงการบันเทิงหลายครั้ง แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการออกกฎหมายใหม่แต่อย่างใด

แม้ว่าจะมีอุปสรรคเเละความยากลำบากที่ต้องเผชิญ แต่การเป็นศิลปินดัง เเละได้โลดแล่นบนเวทีเค-ป๊อป ก็ยังคงเป็นความฝันที่หอมหวานจนหลายคนยอมสู้เพื่อที่จะเดบิวต์

การเปิดตัวเด็กไทยที่อยู่ในไลน์อัปเดบิวต์ของ YG ถือเป็นอีกหนึ่งการยืนยันว่าประเทศไทย และเด็กไทยยังมีศักยภาพระดับโลก และหากประเทศไทยสามารถทำให้วงการ T-POP ประเทศไทยแข็งแรงพอที่จะส่งศิลปินที่มีความสามารถให้ได้รับการยอมรับในระดับโลกได้ คนเก่งเหล่านี้ก็จะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะมาสร้างให้วงการของเรามีความและทำให้ประเทศไทยสามารถต่อสู้ในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์และศิลปินระดับโลกได้เช่นกัน

 

อ้างอิง

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93_%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A5

https://www.thepeople.co/read/culture/50577

 https://www.bbc.com/news/articles/c8jyvmew0njo

https://web.archive.org/web/20230304014109/https://asialink.unimelb.edu.au/insights/koreas-cultural-exports-and-soft-power-understanding-the-true-scale-of-this-trend  

https://jazminemedia.com/news/blackpinks-lisa-attacked-by-racists-comments-for-being-thai-fans-trend-respectlisa

https://kbizoom.com/thai-television-cited-lisa-hate-comment-k-netizens-admitted-discrimination-against-southeast-asia/ 

https://kpop.youzab.com/112186?utm_source

TODAY PLAYWriterTODAY PLAY
workpointTODAY PLAY for ONLINE ONLY | วาไรตี้เพื่อคุณ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง