ถ้าขายเสื้อยืดตัวละ 100 บาท บน TikTok Shop ได้เงินจริงเท่าไหร่

ถ้าขายเสื้อยืดตัวละ 100 บาท บน TikTok Shop ได้เงินจริงเท่าไหร่

หลายคนน่าจะเคยเห็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขายเสื้อยืด เริ่มต้นตัวละประมาณ 100 บาท กันได้

อยากรู้ไหมว่าถ้าเราอยากขายเสื้อยืดในราคาใกล้ๆ กันนี้ บน TikTok Shop บ้าง เราจะได้เงินจริงๆ เท่าไหร่ ?

ในบทความนี้ TODAYBizview จะสรุปให้ฟัง

ในเคสที่ว่าเราเป็นคนทั่วๆ ไป ไม่ได้เป็นแบรนด์ดัง การไปขายของบนช่องทาง TikTok Shop เราจะถูกคิดค่าธรรมเนียมในการขายในเรตของร้าน “Non Mall”

โดยหลังจากวันที่ 1 ตุลาคม นี้ สำหรับร้าน Non Mall ที่ขายของบน TikTok Shop จะโดนหัก “ค่าธรรมเนียมพื้นฐาน” ที่ต่อให้เราจะไม่เข้าร่วมโปรโมชันใด ๆ เลยก็จะโดนหักได้แก่

1. ค่าคอมมิชชัน
2. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
3. ค่าธรรมเนียมสนับสนุนการเติบโตของร้านค้า
4. ค่าธรรมเนียมโครงสร้างพื้นฐานแพลตฟอร์ม

เพื่อให้เห็นภาพแบบชัด ๆ เรามาดูวิธีคำนวณของค่าธรรมเนียมแต่ละตัวกัน

1.ค่าคอมมิชชันของตลาด เป็นค่าธรรมเนียมที่จะหักตามประเภทสินค้าในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ ยกตัวอย่างเช่น

– รองเท้าฟุตบอล 6.42%
– การ์ดจอ 5.35%
– หมวก 7.49%

และสำหรับเสื้อยืด TikTok Shop จะหักค่าคอมมิชชันในอัตรา 7.49% ซึ่งตัวเลขทั้งหมดนี้รวมภาษีแล้ว

โดยวิธีการคำนวณค่าคอมมิชชันของตลาดจะเป็นแบบนี้ ค่าคอมมิชชั่นของตลาด = อัตราค่าคอมมิชชั่น x (ราคาสินค้า – ส่วนลดร้านค้า)

แทนค่าแบบง่าย ๆ ในกรณีที่เสื้อยืดตัวละ 100 บาท แล้วให้ส่วนลดลูกค้า 10 บาทเพื่อกระตุ้นยอดขาย จะได้ว่าค่าคอมมิชชัน 7.49 x (100 – 10) = 6.74 บาท

2.ค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อ เป็นค่าธรรมเนียมที่จะคิดจาก “ยอดเงินทั้งหมด” ที่ลูกค้าชำระเข้ามาในอัตรา 3.21% ซึ่งรวมภาษีแล้ว โดยวิธีการคำนวณค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อจะเป็นแบบนี้

ค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อ = (ยอดที่ลูกค้าชำระ – เงินคืนลูกค้า) x อัตราค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อ

แทนค่าจากเคสเดิม คือในกรณีที่เสื้อยืดตัวละ 100 บาท แล้วให้ส่วนลดลูกค้า 10 บาท ถ้าไม่ได้มีการคืนเงินให้ลูกค้า ค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้อ จะเท่ากับ 90 x 3.21% = 2.89 บาท

3.ค่าธรรมเนียมสนับสนุนการเติบโตของร้านค้า เป็นค่าธรรมเนียมใหม่ที่ TikTok Shop เพิ่มขึ้นมาเพื่อใช้ส่งเสริมการขายให้ร้านค้า เช่น โคดส่งฟรี หรือ การเพิ่มการมองเห็นให้ร้านค้า

โดยค่าธรรมเนียมสนับสนุนการเติบโตของร้านค้าจะถูกเก็บในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ตามสินค้า 2 ประเภทหลัก ๆ และจะเก็บสูงสุดไม่เกิน 199 บาทต่อชิ้น ได้แก่

– สินค้าในหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ = 5.35% (รวมภาษีแล้ว)
– สินค้าหมวดหมู่อื่นๆ = 6.42% (รวมภาษีแล้ว)

วิธีการคำนวณคือ ค่าธรรมเนียมสนับสนุนการเติบโตของร้านค้า = (ราคาสินค้า – ส่วนลดร้านค้า) x อัตราค่าธรรมเนียม

จากเคสเดิมเสื้อยืดจะอยู่ในหมวด “สินค้าอื่น ๆ” ดังนั้น ค่าธรรมเนียมสนับสนุนการเติบโตของร้านค้าจะอยู่ที่ที่ 6.42%

หมายความว่า ถ้าเราขายเสื้อยืดตัวละ 100 บาท ถ้าให้ส่วนลดลูกค้า 10 บาท ค่าธรรมเนียมสนับสนุนการเติบโตของร้านค้าจะเท่ากับ (100 – 10) x 6.42% = 5.78 บาท

4.ค่าธรรมเนียมโครงสร้างพื้นฐานแพลตฟอร์ม เป็นค่าธรรมเนียมที่ TikTok Shop เรียกเก็บจากร้านค้าที่มียอดคำสั่งซื้อใน 1 เดือนมากกว่า 100 ครั้งขึ้นไป โดยจะเก็บในอัตรา 1.07 บาทต่อคำสั่งซื้อ ซึ่งรวมภาษีแล้ว ดังนั้นถ้าร้านขายเสื้อยืดของเรามีคำสั่งซื้อมากกว่า 100 ครั้งในรอบ 1 เดือน เราจะเสียค่าธรรมเนียมตรงนี้ทันที 1.07 บาท ต่อคำสั่งซื้อทันที

อ่านถึงตรงนี้ ขอสรุปให้เห็นภาพชัด ๆ อีกครั้งว่า ถ้าเราขายเสื้อยืดตัวละ 100 บาท แล้วให้ส่วนลด
ลูกค้า 10 บาท แล้วมีคำสั่งซื้อมากกว่า 100 ครั้งใน 1 เดือน

เราจะได้เงินหลังหักค่าธรรมเนียมทั้งหมด 100 – 6.74 – 2.89 – 5.78 – 1.07 = 83.52 บาทนั่นเอง

สุดท้ายนี้ต้องบอกก่อนว่าตัวเลขตรงนี้เป็นเพียงค่าธรรมเนียมพื้นฐานเท่านั้น เพราะในเคสของการขายของจริงอาจจะมีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่เราต้องจ่ายเพิ่มขึ้นมา

เช่น ค่า Affiliate ที่จะเป็นการแบ่งรายได้ให้คนมาช่วยโปรโมตสินค้าของเรานั่นเอง