ทีมวิจัยเบลเยียมพบผู้ป่วยวัย 90 ปี ที่ผลตรวจหลังเสียชีวิตระบุว่าติดเชื้อกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์ ยังไม่ยืนยันว่าเป็นเหตุที่ทำให้อาการทรุดหนักอย่างรวดเร็ว
วันที่ 11 ก.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานผลการศึกษาของนักวิจัยในเบลเยียม เรื่องการติดเชื้อกลายพันธุ์มากกว่า 1 สายพันธุ์ โดยพบกรณีของหญิงวัย 90 ปีรายหนึ่ง ที่เสียชีวิตภายใน 5 วันหลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ตามรายงานระบุว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้รับการแอดมิตในโรงพยาบาลเมื่อเดือนมี.ค. และมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกในวันเดียวกัน โดยผู้ป่วยอาศัยอยู่คนเดียวในบ้าน ได้รับการดูแลโดยพยาบาลเนิร์สซิงโฮม และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตแล้ว ได้มีการนำตัวอย่างสารคัดหลั่งไปตรวจเพื่อระบุสายพันธุ์ของเชื้อ ผลปรากฎว่า พบเชื้อกลายพันธุ์ทั้งสายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) และ เบตา (แอฟริกาใต้)
ทางนักวิจัยยังไม่สามารถบอกได้ว่า การติดเชื้อกลายพันธุ์ร่วมกัน 2 สายพันธุ์ เป็นสาเหตุที่ทำให้อาการทรุดลงอย่างรวดเร็วหรือไม่
แอนน์ แวนเคียร์เบอร์เกน หัวหน้าทีมวิจัยจากโรงพยาบาล OLV ในเบลเยียมเผยว่า การติดเชื้อหลายสายพันธุ์อาจมีมากกว่านี้ในทั่วโลก แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านการตรวจหาสายพันธุ์ทำให้จำนวนที่รายงานอาจจะน้อยกว่าความเป็นจริง พร้อมทั้งเรียกร้องถึงความสำคัญของการตื่นตัวในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม นี่อาจไม่ใช่การตรวจพบเชื้อหลายสายพันธุ์ครั้งแรก โดยในเดือนม.ค. นักวิจัยบราซิลได้รายงานว่ามีผู้ป่วย 2 รายที่พบการติดเชื้อหลายสายพันธุ์ แต่การศึกษาดังกล่าวยังไม่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์
การค้นพบครั้งนี้นำไปสู่คำถามที่ว่า วัคซีนสามารถปกป้องเราได้มากแค่ไหน จากการที่ปัจจุบัน หลายประเทศกำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา และอาจนำไปสู่การตัดสินใจในเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันอีกด้วย










