รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียบอก ‘ปูติน’ ส่งทหารกองหนุนเข้าไปสู้รบในยูเครนแล้ว 82,000 นาย ย้ำยังไม่ต้องเรียกทหารกองหนุนเพิ่ม ขณะที่ยูเครนอ้างทหารกองหนุนไร้ฝีมือ มีอายุใช้งานเฉลี่ยแค่ 2 สัปดาห์
.
นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย รายงานต่อนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียล่าสุด โดยยืนยันว่า ในตอนนี้มีทหารกองหนุนแล้ว 218,000 นาย ที่กำลังถูกฝึกการสู้รบ พร้อมยืนยันว่า การเรียกพลเรือนรัสเซียเข้าเป็นทหารกองหนุน 300,000 นาย ซึ่งรัฐบาลรัสเซียประกาศเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา เสร็จสิ้นแล้ว และยังไม่มีแผนเรียกทหารกองหนุนเพิ่มจากนี้
.
ขณะที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษเผยแพร่การประเมินเมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) โดยระบุว่า การส่งทหารกองหนุนเข้าร่วมรบในสงครามยูเครน สะท้อนถึงความพยายามเติมกำลังพลที่สูญเสียไปในสงครามยูเครนตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามทหารรัสเซียอยู่ในสภาพที่ได้รับการฝึกอย่างดีพอ และมีประสิทธิภาพเพียงการป้องกันการโจมตี ไม่สามารถรุกคืบทางการทหารได้

รายงานของอังกฤษ สอดคล้องกับการเปิดเผยจากยูเครนที่ระบุว่า ในตอนนี้มีทหารกองหนุนรัสเซียเข้าไปประจำการในสมรภูมิรบสำคัญ ทั้งในเมืองเคอร์สัน ทางตอนใต้ของยูเครน และในเมืองบาห์มูด ซึ่งเป็นสมรภูมิที่ถูกจับตาอย่างมากทางภาคตะวันออกของประเทศ
.
นายเซอร์ฮีย์ ไฮได ผู้ว่าการแคว้นลูฮานสก์ที่แต่งตั้งโดยยูเครนเปิดเผยว่า บรรดาทหารกองหนุนรัสเซียที่เข้าไปสู้รบในเมืองบาห์มูดหลายพันคน กำลังถูกสังหารหรือบาดเจ็บจากการสู้รบอย่างรวดเร็ว พร้อมเปรียบเปรยว่าทหารกองหนุนรัสเซียมีอายุการใช้งานจริงแค่ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น
.
เช่นเดียวกับนายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนที่ชี้ว่า ความอ่อนแอของทหารกองหนุนรัสเซีย รวมทั้งภาวะขาดแคลนอาวุธ น่าจะทำให้ในท้ายที่สุดรัสเซียอาจต้องเรียกทหารกองหนุนชุดใหม่ในเร็วๆ นี้
.
ที่มา The Guardian, Al Jazeera










