นานาชาติร่วมกันประณามรัสเซียกรณีรับรองการแบ่งแยกดินแดน ยกเว้นจีนที่ขอให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค
วันที่ 22 ก.พ. 2022 สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้เรียกประชุมชาติสมาชิกเป็นกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่รัสเซียประกาศรับรองสถานะของภูมิภาคโดเนตสค์และลูฮันสค์ พร้อมส่งทหารเข้าไปในยูเครนตะวันออก
ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ ผู้แทนถาวรสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ กล่าวในที่ประชุม 15 ชาติว่า การที่รัสเซียส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปในยูเครนตะวันออกนั้นเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระ และการที่รัสเซียรับรองการแบ่งแยกดินแดนเป็นรัฐอิสระ ถือเป็นปฐมบทที่จะนำไปสู่สงคราม
นอกจากนี้ ผู้แทนสหรัฐฯ ยังได้จัดแถลงข่าวสั้นๆ หลังประชุมเสร็จ โดยชี้ว่าการกระทำของรัสเซียถือเป็นการฉีกข้อตกลงมินสก์ (Minsk Accords) ออกเป็นชิ้นๆ และสหรัฐฯ จะประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในวันนี้ (22 ก.พ.)
โดยข้อตกลงมินสก์ ถูกจัดทำขึ้นครั้งแรกในปี 2014 เพื่อหวังยุติการสู้รบ และเป็นแนวทางในการมอบพื้นที่ที่ถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยึดครองไว้คืนให้กับรัฐบาลยูเครน เริ่มต้นด้วยการให้ทั้งฝ่ายยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนหยุดยิง ก่อนจะมีการปรับปรุงอีกครั้งในปี 2015 แต่กลับไม่มีการปฏิบัติตามเท่าใดนัก
ทางด้าน วาสซิลี เนเบนเซีย ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ ยืนยันว่ารัสเซียยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจาทางการทูต อย่างไรก็ตาม การนองเลือดในเขตดอนบาสเป็นสิ่งที่รัสเซียไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้เกิดขึ้น
ในการประชุมครั้งนี้ หลายชาติต่างออกมาประณามการกระทำของรัสเซีย ยกเว้นก็แต่จีน ที่พยายามแสดงท่าทีเป็นกลาง
จาง จุน ผู้แทนถาวรจีนประจำสหประชาชาติระบุว่า ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความยับยั้งชั่งใจ และหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจทำให้สถานการณ์มีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
คำแถลงดังกล่าวเป็นสคริปต์ที่ทางการจีนมักจะนำมาใช้อยู่เสมอในวิกฤตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตในเมียนมา อัฟกานิสถาน รวมถึงล่าสุดในยูเครน
ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 3 สัปดาห์ที่ UNSC มีการประชุมถึงประเด็นในยูเครน โดยที่ผ่านมามีการประชุมกันหลายสิบครั้งนับตั้งแต่ที่รัสเซียพยายามผนวกไครเมียของยูเครนในปี 2014 แต่ก็ไม่ได้มีการตอบสนองใดๆ เกิดขึ้น เนื่องจากรัสเซียมีสิทธิวีโต้ในฐานะหนึ่งในสมาชิกถาวร ร่วมกับฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร จีน และสหรัฐฯ










