ธนาคารยูโอบี เปิดเผยการโอนย้ายบัญชีลูกค้า 1.2 ล้านรายมาจากธนาคารซิตี้แบงก์ ทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านราย ยืนยันระบบปลอดภัยไม่มีข้อมูลรั่วไหล พร้อมดำเนินการพัฒนาระบบเพิ่มช่องทางติดต่อให้ลูกค้าอย่างทั่วถึง
‘วีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล’ กรรมการผู้จัดการ Retail & Brand ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้เล่าถึงการดำเนินการโอนย้ายบัญชีลูกค้าจากธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย จำนวนกว่า 1.2 ล้านราย มายังระบบของธนาคารยูโอบี เสร็จสมบูรณ์แล้วเมื่อ 21 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา
โดยธนาคารขอยืนยันว่าธนาคารมีนโยบายในการรักษาความปลอดภัยและคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวบุคคลของลูกค้าทุกรายอย่างเคร่งครัด ปัจจุบันมีลูกค้าที่ถือผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซิตี้ที่ใช้ Citi Mobile app กว่า 90% ได้ลงทะเบียนใช้งานแอป UOB TMRW แล้ว
โดยระหว่างที่โอนย้ายบัญชีมีลูกค้าหลายคนที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับความไม่สะดวกในการรับบริการจากศูนย์บริการลูกค้าของธนาคาร (UOB Contact Centre) ได้เพิ่มจำนวนพนักงานที่ศูนย์บริการลูกค้าเป็นสามเท่า
และยังได้มีการช่องทางสื่อสารอื่นๆ ได้แก่ อีเมล แชทและทางโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมถึงมีการขยายเวลาสาขา เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากได้อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ ธนาคารได้ปรับปรุงวิธีการส่งใบแจ้งยอดบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดและวิธีการชำระค่าบริการ โดยธนาคารจะดำเนินการยกเลิกการจัดสรรยอดอัตโนมัติ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันสรุปยอดบัญชีวันที่ 24 มิถุนายน 2567
สำหรับการใช้งานบัตรเครดิต ธนาคารขอยืนยันว่าลูกค้ายังคงสามารถใช้บัตรเครดิตภายใต้แบรนด์ซิตี้เดิมของท่านได้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับบัตรจากยูโอบีที่จะเริ่มดำเนินการส่งให้แก่ลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
ยูโอบีจะยังคงทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างใกล้ชิด รวมถึงได้รับคำปรึกษาและการสนับสนุนกระบวนการโอนย้ายธุรกิจในครั้งนี้ เพื่อสร้างบรรทัดฐานการให้บริการลูกค้าที่เกินกว่าระดับที่กฎระเบียบกำหนด
ภายหลังจากธนาคารยูโอบีทำการควบรวมกับธนาคารซิตี้แบงก์ ทำให้ยูโอบีมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในส่วนของลูกค้าบัตรเครดิต ขณะที่การเปิดบัญชีใหม่กับธนาคารยูโอบีก็มีลูกค้าเก่าจากซิตี้แบงก์ มาเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นจำนวน 2 แสนบัญชีแล้ว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกธนาคารยูโอบียังคงมีผลการดำเนินการที่ดีทั้งในส่วนของบัตรเครดิต TMRW และสินเชื่อส่วนบุคคล แม้ว่าในส่วนของบัตรเครดิตจะมีการชะลอลงในช่วงเดือนพฤษภาคมจากการโอนย้ายบัญชี แต่ปัจจุบันกลับเข้ามาสู่ระดับปกติแล้ว
ส่วนครึ่งปีหลังหากอัตราดอกเบี้ยทั้งไทยและทั่วโลกมีการปรับตัวลง คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้นได้ ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจธนาคารมากขึ้น










