วันที่ 25 พ.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทำเนียบขาวออกมาตรการจำกัดการเดินทางจากบราซิลเข้าสู่สหรัฐฯ หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในบราซิลพุ่งแซงหน้ารัสเซีย ขึ้นเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐฯ
มาตรการดังกล่าวได้สั่งห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติที่เคยพำนักในบราซิลเป็นเวลา 14 วันเดินทางเข้าสหรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะปกป้องประเทศของเรา ด้วยการสั่งห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในบราซิลเป็นเวลา 14 วันเดินทางเข้าสหรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต”
มาตรการดังกล่าวจะสร้างความเชื่อมั่นว่า ชาวต่างชาติที่อยู่ในบราซิลจะไม่กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อเพิ่มในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวจะไม่มีผลบังคับใช้กับการเคลื่อนไหวด้านการค้าระหว่างสองประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงวันของวันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ค. นี้
ด้านสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วถึง 1,643,246 ราย และจากข้อมูลของเว็บไซต์มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ จำนวนผู้เสียชีวิตเริ่มเข้าใกล้หลัก 1 แสนราย โดยในขณะนี้อยู่ที่ 97,720 ราย
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ เคยกล่าวว่า สหรัฐฯ อาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 1 แสนราย แต่ระบุว่า จำนวนอาจไม่สูงมากไปกว่านี้ และเมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์ทวีตข้อความแสดงความเห็นในเชิงบวกว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเริ่มลดลง ในขณะที่หลายรัฐทั่วประเทศ เริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองแล้ว
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันของบราซิลเพิ่มขึ้น 15,813 ราย เมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 363,211 ราย และเสียชีวิต 22,013 ราย เป็นรองเพียงสหรัฐฯ









