วันที่ 22 พ.ค. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้เปิดประเทศโดยเร็ว ในขณะที่จำนวนผู้ว่างงานในประเทศที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 37 ล้านคนแล้ว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างการเยือนรัฐมิชิแกน หนึ่งในสมรภูมิการเลือกตั้งครั้งสำคัญ โดยแสดงความหวังว่ารัฐต่างๆ จะเร่งยกเลิกมาตรการควบคุมโรคเพื่อเปิดทางให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง
นายทรัมป์กล่าวว่า “เราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ตอนนี้เราต้องการเดินหน้าต่อ และคุณจะทำลายประเทศหากคุณไม่ยอมเปิด”
ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ว่า ตอนนี้ประเทศของเรากำลัง “เปลี่ยนผ่านกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่” และกำลังพิจารณาจัดการประชุม G-7 ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี สมาชิกประเทศอื่นก็กำลังเริ่มกลับมาอีกครั้ง และถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการคืนสู่สถานการณ์ปกติ
ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานระบุว่า ตัวเลขการว่างงานในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 2.43 ล้านคนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้จำนวนผู้ว่างงานทั้งหมดอยู่ที่ราว 36.8 ล้านคน เป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสที่ทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องปิดตัวชั่วคราว ขณะที่นายทรัมป์เองก็ต้องการเดินหน้าหาเสียงก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้
การเยือนรัฐมิชิแกนในครั้งนี้นายทรัมป์ได้ไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ดในเมืองอิปซีแลนทิ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวชื่นชมที่โรงงานดังกล่าวได้เปลี่ยนสายการผลิตบางส่วนมาผลิตเครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 แต่ในระหว่างการพบปะผู้บริหารและลูกจ้างของโรงงาน นายทรัมป์ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยเหมือนคนอื่นๆ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าเขาสวมทั้งหน้ากากอนามัยและแว่นตาป้องกันละอองฝอยในพื้นที่ที่อยู่นอกสายตาของผู้สื่อข่าว
แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ จะมีอัตราลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงเป็นตัวเลขที่สูงอยู่ โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่มากกว่า 94,700 คน และผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 1,577,700 คน









