
วันที่ 23 พ.ค.63 เอเอฟพีรายงานว่า Hertz บริษัทเช่ารถชื่อดังที่ดำเนินธุรกิจมา 102 ปี ได้ยื่นหนังสือล้มละลายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา (ไม่รวมตลาดต่างประเทศอ ในแถบยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) ต่อศาลรัฐเดลาแวร์แล้ว หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้ภาคการท่องเที่ยวและการเดินทางหยุดชะงัก ทำให้ขาดรายได้จากการให้เช่ารถยนต์และการสั่งจองรถยนต์
การยื่นล้มละลายครั้งนี้ส่งผลให้พนักงานในภูมิภาคอเมริกาเหนือจำนวนกว่า 1 หมื่นคน หรือคิดเป็น 26.3% จากพนักงานทั่วโลกทั้งหมด ต้องตกงาน ด้านรายงานของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลเผยว่า บริษัท Hertz มีหนี้สินประมาณ 19 พันล้านดอลลาร์ และยังแบกรับภาระในการดูแลรถยนต์จำนวน 700,000 คัน ที่จอดอยู่ในโรงเก็บช่วงล็อกดาวน์
โดยทาง Hertz เผยว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะช่วยให้การเงินของบริษัทกลับมาเข้มแข็งขึ้น และจะทำให้บริษัทกลับไปแข็งแกร่งเหมือนก่อนหน้านี้อีกครั้ง ทั้งนี้บริษัท Hertz ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1918 โดยแรกเริ่มนั้นมีรถยนต์ให้เช่าเพียง 12 คันเท่านั้น ก่อนที่จะขยับขยายธุรกิจจนเป็นผู้ให้เชารถยนต์รายใหญ่ในสหรัฐฯ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Hertz ต้องเผชิญความท้าทายกับคู่แข่งรายใหม่อย่าง Avis Budget และ Uber แม้ว่าในปี 2019 Hertz จะประสบภาวะขาดทุนถึง 4 ครั้งติดต่อกัน แต่ในช่วงต้นปี 2020 รายได้ของบริษัทเริ่มกลับมาดีขึ้น โดยในเดือนมกราคม รายได้เพิ่มขึ้น 6% และในเดือนกุมภาพันธ์ รายได้เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2019 ก่อนที่จะหยุดชะงักจากการล็อกดาวน์









