เปิดจดหมายส่งไม้ต่อซีอีโอจาก ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ และบทเรียนชีวิตการลงทุน

เปิดจดหมายส่งไม้ต่อซีอีโอจาก ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ และบทเรียนชีวิตการลงทุน

Personal Finance

เป็นปกติทุกปีที่ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ (Warren Buffett) จะเขียนจดหมายถึงผู้ถือหุ้นของบริษัท แต่ปีนี้ 2025 พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะนี่คือ จดหมายฉบับสุดท้ายในฐานะซีอีโอ Berkshire Hathaway ของเขา ก่อนที่จะส่งตำแหน่งต่อให้ ‘เกร็ก เอเบล’ (Greg Abel) ในปลายปีนี้

แม้จะก้าวลงจากตำแหน่ง แต่ ‘บัฟเฟตต์’ บอกว่าเขาจะยังคงเขียนจดหมายปีละครั้งในช่วง Thanksgiving เหมือนเดิม พร้อมประโยคที่หลายคนพูดถึงคือ

“I’m going quiet.” ที่แปลว่า “ผมอาจจะเงียบลงหน่อย แต่ยังอยู่ตรงนี้เหมือนเดิม”

[ จดหมายพูดเรื่องชีวิต มากกว่าตัวเลข ]

ปีนี้ในจดหมาย ‘บัฟเฟตต์’ ไม่ได้เน้นตัวเลขหรือผลประกอบการอะไรมากมาย แต่เลือกพูดถึงเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น ทั้งความรับผิดชอบ ความผิดพลาด และความใจดี ซึ่งทำให้จดหมายฉบับนี้ดูเป็นส่วนตัวและพิเศษกว่าทุกปี

และยังได้ขอบคุณผู้ถือหุ้นที่อยู่กับ Berkshire มายาวนาน พร้อมกับพูดถึงความผิดพลาดของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา โดยมีประโยคสำคัญที่เขียนไว้ว่า

“Don’t dwell on past mistakes. Learn a little — and move on.” ที่แปลว่า “อย่าติดอยู่กับความผิดพลาดเดิมๆ เรียนรู้เล็กน้อย แล้วเดินหน้าต่อไป”

[ ส่งไม้ต่อให้เกร็ก เอเบล ]

ทั้งนี้ ในจดหมาย ‘บัฟเฟตต์’ ยังพูดถึง ‘เกร็ก เอเบล’ ซีอีโอคนใหม่ของบริษัท โดยให้คำชมอย่างชัดเจนว่าเป็นคน ขยัน ซื่อสัตย์ และสื่อสารตรงไปตรงมา  เขาเขียนว่า ‘เกร็ก’ เข้าใจธุรกิจได้ดีมาก และเรียนรู้เร็วในเรื่องที่ผู้นำหลายคนอาจมองข้าม

“He has exceeded every expectation I had when I first considered him as Berkshire’s future CEO.” ที่แปลว่า “เกร็กทำได้เหนือความคาดหวังทั้งหมดที่ผมมีต่อผู้สืบทอดตำแหน่งซีอีโอของเบิร์กเชียร์”

ถึงแม้จะลงจากตำแหน่งแต่ ‘บัฟเฟตต์’ ยังบอกชัดว่าเขาจะยังถือหุ้น Berkshire  จำนวนมากต่อไป เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจว่าเขายังเชื่อมั่นในบริษัทอย่างเต็มที่ ไม่ได้ก้าวลงเพราะมุมมองเชิงลบใดๆ

[ เล่าถึงบ้านเกิดด้วยความผูกพัน ]

อีกมุมหนึ่งที่อบอุ่นของจดหมายนี้  คือการพูดถึงบ้านเกิดของเขาที่ ‘โอมาฮา’ (Omaha) รัฐเนแบรสกา โดยบอกว่าเขา ‘โชคดีมาก’ ที่ได้เติบโตที่นั่น ได้เจอผู้ใหญ่ใจดี และได้เรียนในโรงเรียนรัฐบาลที่หล่อหลอมเขามาจนถึงวันนี้

“In short, Nebraska is home.” ที่แปลว่า “พูดสั้นๆ ก็คือ เนแบรสกาคือบ้าน

“Both Berkshire and I have done better because our base has always been Omaha.” ที่แปลว่า “เขายังเชื่อว่าทั้งตัวเขาและ Berkshire เติบโตได้ดีเพราะมีโอมาฮาเป็นฐาน”

[ พูดถึงอายุ 95 ปีและการยอมรับความจริง ]

ปีนี้ ‘บัฟเฟตต์’ อายุครบ 95 ปีแล้ว เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าอายุที่มากขึ้นย่อมส่งผลต่อบทบาท การตัดสินใจ และงานการกุศลที่เขาทำอยู่

โดยได้พูดถึงผลกระทบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของวัยชราและยอมรับว่าหลายอย่างต้องส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ ทั้งธุรกิจและงานเพื่อสังคมที่เขาทำมาตลอดชีวิต

และเขายังพูดถึง ‘โอกาสที่เกิดน้อยแต่ไม่ใช่ศูนย์’ ซึ่งเป็นวิธีคิดในแบบของนักสถิติ ที่เขาใช้มองทั้งชีวิตและการลงทุน มองโลกตามความจริง แต่ไม่ได้หวาดกลัว

นอกจากนี้ เขายังคงบริจาคหุ้น Berkshire Class A จำนวน 1,800 หุ้นให้มูลนิธิของครอบครัวเหมือนทุกปี พร้อมย้ำว่านี่ไม่ใช่สัญญาณว่าบริษัทมีปัญหา แต่เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจทำต่อเนื่อง

[ สามบทเรียนจากจดหมายฉบับนี้ ]

ในจดหมายฉบับนี้สิ่งที่สื่อสารได้ชัดเจนที่สุดคือ ‘บทเรียนชีวิตและการลงทุน’ ที่เขาฝากไว้ ซึ่งสรุปได้ 3 ข้อง่ายๆ ดังนี้

1) ตลาดผันผวนได้ แต่ธุรกิจดีจะกลับมาเสมอ : Berkshire เคยตกลงแรงถึง 50% สามครั้ง แต่ทุกครั้งก็ฟื้นกลับมาได้ นี่คือเหตุผลที่เขาย้ำว่าอย่าตัดสินใจด้วยความกลัวในระยะสั้น เพราะถ้าธุรกิจมีพื้นฐานดีจริง ราคาหุ้นจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงเสมอในระยะยาว

2) ความเรียบง่ายคือสิ่งที่ใช้ได้ตลอด : บัฟเฟตต์เชื่อว่าการลงทุนไม่จำเป็นต้องซับซ้อน ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจ ไม่ไล่ตามกระแส และโฟกัสที่คุณภาพธุรกิจเป็นหลัก นี่คือหลักการที่ทำให้ Berkshire เติบโตต่อเนื่องมาเกือบ 60 ปี แม้ตลาดจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม

3) สร้างองค์กรให้แข็งแรงพอ แม้วันที่เราไม่อยู่แล้ว : การส่งมอบตำแหน่งให้ ‘เกร็ก เอเบล’ คือสัญลักษณ์ของการคิดระยะยาวของบัฟเฟตต์ เขาเชื่อว่าบริษัทที่ดีต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ยึดติดกับตัวผู้นำคนเดียว และต้องเตรียมคนรุ่นต่อไปให้พร้อมเสมอ

อย่างไรก็ตาม จดหมายฉบับสุดท้ายในฐานะซีอีโอของ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’  ไม่ได้เป็นการบอกลา เพราะแม้ว่าเขาจะไม่เขียน ‘รายงานประจำปีของบริษัท’ แล้ว แต่ยังคงสื่อสารกับผู้ถือหุ้นเหมือนเดิมผ่านจดหมาย Thanksgiving ปีละครั้ง

ดังนั้น แม้บทบาทจะเปลี่ยนไป แต่จดหมายฉบับนี้แสดงให้เห็นชัดถึงแนวคิดที่เขายึดมาตลอด นั้นคือ ความซื่อสัตย์ ความพอประมาณ การมองระยะยาว ที่ทำให้เขาเป็นนักลงทุนผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ManassaweeWriterManassawee
นักข่าวการเงิน ที่มีความสนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด อยากสื่อสารให้ทุกเรื่องการเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง