WHO ชี้ยุโรปกำลังมุ่งสู่จุดจบของการที่โควิดเป็นโรคระบาดใหญ่ แต่ไม่ได้เบาถึงขั้นเป็นโรคประจำถิ่น

WHO ชี้ยุโรปกำลังมุ่งสู่จุดจบของการที่โควิดเป็นโรคระบาดใหญ่ แต่ไม่ได้เบาถึงขั้นเป็นโรคประจำถิ่น

COVID-19

ผอ. WHO ยุโรปคาดการระบาดของโควิดจะลดลงในอีกไม่นาน ก่อนมาลุ้นอีกครั้งช่วงปลายปีว่าจะกลับมาหรือไม่

วันที่ 23 ม.ค. 2565 สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) รายงานบทสัมภาษณ์ของ ดร.ฮานส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภาคพื้นยุโรป ที่มีการกล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในยุโรปว่า อาจกำลังใกล้ถึงจุดจบของการเป็นโรคระบาดใหญ่แล้ว โดยคาดว่าเชื้อโอไมครอนจะทำให้ประชากรยุโรป 60% ติดเชื้อภายในเดือนมี.ค.

หลังจากที่โอไมครอนระบาดไปทั่วยุโรปแล้ว อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการเกิดภูมิคุ้มกันขึ้นทั่วโลก ทั้งจากวัคซีนและจากการติดเชื้อ รวมถึงการผ่านพ้นฤดูหนาว

โดยการระบาดของโควิด-19 จะลดลงไปพักหนึ่ง จากนั้นมารอดูอีกทีว่าจะกลับมาระบาดอีกในช่วงปลายปีหรือไม่

แม้จะออกมาคาดการณ์ว่าโรคโควิด-19 อาจจะหลุดจากการเป็นโรคระบาดใหญ่ (Pandemic) แต่ยังเร็วเกินไปที่จะพิจารณาว่าเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) แล้ว

โดยการเป็นโรคประจำถิ่น หมายความว่า เป็นโรคที่เกิดขึ้นประจำเฉพาะบริเวณพื้นที่นั้นๆ มีการแพร่กระจายในระดับต่ำและสามารถคาดเดาอัตราการติดเชื้อได้

ดร.คลูจกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า มีการพูดถึงโรคประจำถิ่นกันในหลายที่ แต่การเป็นโรคประจำถิ่นนั้น เราจะต้องคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไวรัสตัวนี้สร้างความประหลาดใจให้กับเรามามากกว่า 1 ครั้งแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะในขณะที่เชื้อโอไมครอนระบาดเป็นวงกว้าง ก็อาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์อื่นๆ ตามมาได้

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง