องค์การอนามัยโลกจะส่งทีมนักวิทยาศาสตร์เข้าตรวจต้นตอการระบาดโรคโควิด-19 ที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเดือน ม.ค.นี้ ระบุเป้าหมายเพื่อป้องกันโรคระบาดในอนาคต ไม่ต้องการกล่าวโทษใคร
วันที่ 17 ธ.ค. 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า องค์การอนามัยโลกกำลังจะส่งทีมนักวิทยาศาสตร์จากนานาชาติจำนวน 10 คน เข้าไปตรวจสอบต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่นของประเทศจีน โดยจะเริ่มเข้าไปตรวจสอบในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนม.ค. ปีหน้า และน่าจะใช้เวลาประมาณ 4-5 สัปดาห์
ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่จะร่วมทีมสำรวจต้นตอโรคโควิด-19 กับองค์การอนามัยโลกว่า การเข้าไปตรวจสอบต้นตอการระบาดในประเทศจีนครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อกล่าวโทษจีนว่าเป็นจุดเริ่มต้นของโรคระบาด แต่ต้องการศึกษาและป้องกันโรคระบาดรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
องค์การอนามัยโลกยังเปิดเผยด้วยว่า ที่ผ่านมามีการติดต่อกับรัฐบาลจีนมาโดยตลอด และรัฐบาลจีนมีความยินดีให้ทีมนักวิทยาศาสตร์จากองค์การอนามัยโลกเข้าไปตรวจสอบต้นตอของโรคโควิด-19 ถึงเมืองอู่ฮั่น

ที่ผ่านมาเมืองอู่ฮั่นของจีนถูกระบุว่าเป็นจุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีข้อสันนิษฐานว่า การแพร่ระบาดอาจเริ่มต้นมาจากตลาดอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งจำหน่ายสัตว์ป่าหลายชนิดสำหรับนำไปประกอบอาหาร ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมุติฐานว่า ไวรัสโควิด-19 น่าจะอยู่ในค้างคาวมานานแล้ว แต่เพิ่งแพร่เชื้อเข้าสู่มนุษย์ผ่านสัตว์ตัวกลางที่ขายอยู่ในตลาด
อย่างไรก็ตามในช่วงการระบาดมีข้อถกเถียงถึงต้นตอของไวรัสโควิด-19 มากมาย ทั้งข้อกล่าวหาว่าไวรัสชนิดนี้อาจหลุดออกมาจากห้องแล็บในประเทศจีน รวมไปถึงข้อสันนิษฐานที่ว่าไวรัสโควิด-19 อาจเริ่มแพร่ระบาดมาก่อนแล้วในประเทศอื่น จนกระทั่งเริ่มพบการแพร่ระบาดที่ชัดเจนที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในตอนนี้ กลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงที่พบผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันเพิ่มสูงอีกระลอก ขณะที่หลายฝ่ายกำลังจับตาการอนุมัติและแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ที่เป็นเหมือนความหวังในการสิ้นสุดการระบาดรุนแรง โดยปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมทั่วโลกกว่า 74.5 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 1.6 ล้านคน










