ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ ‘วิน ภาสวิน’ เด็กชายวัย 14 ปี ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้คนจำนวนมากได้ฉุกคิดถึง ‘คุณค่าของการวางแผนการเงินและความมั่นคงในชีวิต’
สิ่งที่วินได้ฝากไว้ คือแนวคิดและทัศนคติที่เตือนให้เรากลับมามองตัวเองว่า “เราได้เริ่มวางแผนการเงินและชีวิตให้มั่นคงแค่ไหนแล้วในวันนี้”
เพราะหลายคนมักคิดว่า ‘การวางแผนการเงิน’ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่มีรายได้มั่นคง แต่ความจริงแล้วการวางแผนไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินเดือนหรืออายุ แต่มันเริ่มจากการลงมือทำและใจที่อยากจัดการชีวิตให้มั่นคง
[ จุดเริ่มต้นของการวางแผนชีวิต ]
วินเคยบอกว่า “ผมไม่ได้อยากรวย แต่อยากให้ตัวเองไม่ต้องลำบากในวันที่ป่วย” คำพูดเรียบง่ายนี้สะท้อนว่า ‘การออม’ ไม่ใช่เรื่องตัวเลข แต่มันคือ ‘ความสบายใจ’
เพราะเขาเคยป่วยหนักจนรู้ว่า หากต้องกลับมารักษาอีกครั้ง ค่ารักษาพยาบาลคงสูงมาก และเพราะเขาไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้ จึงเลือกสร้าง ‘หลักประกันชีวิต’ ด้วยตัวเอง โดยเริ่มวางแผนการเงินแบบง่ายๆ แต่มีเป้าหมายชัดเจน
- เงินสำรองฉุกเฉิน 60,000 บาท ที่คำนวณจากค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 10,000 บาท นำหลักพื้นฐานที่แนะนำว่าควรมีเงินสำรองอย่างน้อย 3–6 เดือนมาปรับใช้ โดยเลือกตัวเลขสูงสุดคือ 6 เดือน จึงตั้งเป้าเก็บให้ได้ 60,000 บาท
- ออมทองปีละ 1 บาท เพราะเข้าใจเรื่องเงินเฟ้อจึงรู้ว่าการเก็บเงินสดไว้เฉยๆ ไม่ปลอดภัย จึงเลือก ‘ทองคำ’ และตั้งเป้าว่าแต่ละปีจะออมทองให้ได้ 1 บาท จนมีทองสะสมแล้ว 2 บาท 2 สลึง โดยมองว่าทองคำเหล่านั้นไม่ใช่ของสะสม แต่คือ ของขวัญจากปัจจุบันให้ตัวเองในอนาคต
[ รายได้ของเด็กวัย 14 ที่คิดเหมือนนักวางแผน ]
เมื่อเข้าใจว่าการสร้างรายได้มีเพียงสองทาง คือ ‘การลดรายจ่าย’ หรือ ‘เพิ่มรายได้’ เขาจึงเลือกทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กัน
นั้นคือการประหยัดด้วยการพกข้าวและน้ำไปโรงเรียนเอง และเมื่อรู้ว่าประหยัดได้ถึงที่สุดแล้ว ก็เริ่มมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อหารายได้เพิ่ม ซึ่งสิ่งที่เขาทำคือ
1.ขายขนมในโรงเรียน เริ่มจากการสังเกตว่าเพื่อนหลายคนไม่มีเวลาออกไปซื้อของกิน จึงซื้อขนมแพ็กใหญ่มาแบ่งขาย เริ่มจาก ‘ยำยำช้างน้อย’ กำไรวันละราว 200 บาท ต่อมาก็เริ่มวางแผนต่อยอดขายขนมปังเนยกรอบในอนาค
2.สร้างคอนเทนต์บนโซเชียล โดยเปิดช่องของตัวเองชื่อ win_phassawin เล่าเรื่องชีวิตวัยเรียนและแนวคิดการเงินแบบเข้าใจง่าย หลายคลิปมียอดดูหลักแสนถึงหลักล้าน จนมีแบรนด์ติดต่อให้รีวิวสินค้า
จากค่าจ้างหลักร้อยเป็นหลักพัน และรายได้ทุกบาทถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น ‘เงินออม’ และ ‘ทองคำ’
นอกจากนี้ วินยังเคยเล่าว่าชอบฟังพอดแคสต์เกี่ยวกับการลงทุนสำหรับมือใหม่และจดทุกประโยคที่ฟังแล้วชอบ เช่น “เก็บเล็กไว้ให้โต แล้วโอกาสจะมาเอง” จึงเป็นจุดเริ่มต้นจากเงินเล็กๆ ที่มีในมือก่อนจะค่อยๆ สร้างระบบออมของตัวเอง
ดังนั้น การวางแผนการเงินไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่ขึ้นอยู่กับใจที่อยากสร้างหลักประกันที่ดีที่สุดให้ตัวเอง นั้นคือความมั่นคง และในบางครั้งแรงบันดาลใจเรื่องการเงินที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อาจไม่ได้มาจากนักการเงินระดับโลกแต่มาจาก ‘เด็กวัย 14 คนหนึ่ง’ ที่เข้าใจคุณค่าของเวลาและเลือกลงมือทำตั้งแต่วันนี้ โดยไม่รอให้พร้อม
แม้วันนี้วินจะจากไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้คือ ‘แนวคิดที่ไม่มีวันหมดอายุ’ เพราะเขาทำเป็นตัวอย่างให้เราเห็นว่าการวางแผนการเงินไม่ใช่เเค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่มันคือการดูแลตัวเองด้วยความหวังและจะเป็นบทเรียนที่อยู่ในใจของใครอีกหลายคนต่อไป










