
สหรัฐอเมริกาและจีน เห็นพ้องที่จะยุติสงครามการค้าลงเป็นการชั่วคราว หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ร่วมหารือกับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำจี 20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา
วันที่ 3 พ.ย. 61 สื่อต่างประเทศรายงานระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะถอนคำขู่ที่จะขึ้นกำแพงภาษีสินค้าจีนมูลค่าประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่จีนจะต้องซื้อสินค้าของสหรัฐอเมริกามากขึ้น และทั้ง 2 จะเข้าสู่ช่วงเวลาของการหารือซึ่งกันและกันเป็นเวลา 90 วัน เพื่อทำข้อตกลงทางการค้า ซึ่งก่อนหน้านี้จีนก็ได้ยอมที่จะลดภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ กว่า 1500 รายการไปแล้ว โดยหากยังไม่สามารถตกลงกันได้ สหรัฐฯ จะเพิ่มกำแพงภาษีจาก 10 เปอร์เซ็นต์ในเวลานี้เป็น 25 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ทำเนียบขาวระบุว่า จีนยังเห็นพ้องที่จะเพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯในทันทีอีกด้วย

ทั้งนี้มีสินค้าของจีนเกือบ 6,000 รายการ เช่น พลาสติก, ของเล่น, สินค้ากีฬา, ชิ้นส่วนรถยนต์, สินค้าเกษตร,ข้าว, สินค้าแช่แข็งต่างๆ และสิ่งทอ ที่ได้รับผลกระทบจากการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นกำแพงภาษีกับสินค้ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และสหรัฐฯ ระบุว่า ต้องเลือกใช้มาตรการนี้ ก็เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน และ การลอกขโมยเทคโนโลยีของบริษัทอเมริกัน









