
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค Frente Amplio เฉลิมฉลองในสภาผู้แทนราษฎรชิลี ภายหลังกฎหมายว่าด้วยอัตลักษณ์ทางเพศได้รับความเห็นชอบ / AFP
สภาชิลีมีมติผ่านกฎหมายว่าด้วยอัตลักษณ์ทางเพศ ผู้ที่มีอายุ 14 ปีขึ้นไปสามารถเปลี่ยนชื่อและอัตลักษณ์ทางเพศได้แล้ว
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 61 สภาผู้แทนราษฎรชิลีได้มีมติผ่านกฎหมายว่าด้วยอัตลักษณ์ทางเพศ ด้วยคะแนน 95-46 เสียง ทำให้ประชาชนที่มีอายุ 14 ปีขึ้นไปสามารถเปลี่ยนชื่อและอัตลักษณ์ทางเพศโดยชอบธรรม
กฎหมายฉบับนี้เปิดทางให้ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถเปลี่ยนชื่อและอัตลักษณ์ทางเพศตามกฎหมายได้ ขณะที่ผู้ที่มีอายุ 14 ปีขึ้นไปสามารถเปลี่ยนชื่อและอัตลักษณ์ทางเพศได้ หากได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นนี้เป็นที่ถกเถียงกันมาเป็นเวลานานถึง 5 ปีแล้วในชิลี ประเทศที่มีความเป็นอนุรักษ์นิยมสูง
การถกเถียงในประเด็นเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยอัตลักษณ์ทางเพศ ถือเป็นเป็นประเด็นร้อนแรงเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับเดือนสุดท้ายของวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของนางมิเชลล์ บาเซเลต์
ภายหลังกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภา บรรดานักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนข้ามเพศต่างพากันชื่นชมและดีใจอย่างมาก
ด้าน อัลวาโร ตอโนโกโซ หัวหน้ากลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อบูรณาการและการปลดปล่อยคนรักร่วมเพศชิลี กล่าวว่า “เรากำลังเป็นพยานในเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งเราเฉลิมฉลองด้วยอารมณ์และความสุขที่ยิ่งใหญ่”
“กฎหมายนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนหลายพันคนให้มีศักดิ์ศรีและสิทธิมนุษยชน ซึ่งเคยได้รับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับตัวตนทางเพศของพวกเขา” ตอโนโกโซ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่กฎหมายว่าด้วยอัตลักษณ์ทางเพศจะได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรชิลี ‘อเลสเซีย อีนิโอเก’ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนข้ามเพศเคยกล่าวไว้ว่า “ฉันไม่มีตัวตนในประเทศชิลี”
เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ได้ถูกเลือกปฏิบัติในสังคมเพราะอัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขา เช่น การถูกจำกัดสิทธิ์ในการหางาน

‘อเลสเซีย อีนิโอเก’ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนข้ามเพศในประเทศชิลี / AFP









