‘ซูจี’ โวยข้อกล่าวหาใช้ความรุนแรงโรฮีนจา ยืนยันคุ้มครองทุกคน

• นางออง ซาน ซูจี แสดงความเห็นครั้งแรกหลังเกิดปัญหาความรุนแรงในรัฐยะไข่ ระบุข่าวการใช้ความรุนแรงปราบโรฮีนจาเป็นการบิดเบือนข้อมูล
• เธอยืนยันว่าประชาชนทุกคนในเมียนมาต้องได้รับการปกป้องด้านสิทธิมนุษยชนและด้านอื่นๆ
• มีการล่ารายชื่อกว่า 3.6 แสนคน ผ่าน Change.org เพื่อยึดรางวัลโนเบลสันติภาพคืนจากนางซูจี โดยมองว่าการที่ทางการเมียนมากระทำอยู่นั้นเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

วันนี้ (7 ก.ย. 60) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐบาลเมียนมา ออกมาแสดงความเห็นครั้งแรกเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงการสู้รบระหว่างทางการเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮีนจา และเหตุการณ์ปราบชาวโรฮีนจาหลายพันคน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย ในรัฐยะไข่ ทางตอนเหนือของเมียนมา

นางซูจีกล่าวว่า เธอเข้าใจเป็นอย่างดีถึงการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและการไม่ได้รับประชาธิปไตย ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาลจะต้องทำให้ประชาชนทุกคนในเมียนมาได้รับการคุ้มครองทางการเมือง ทางสังคม ความเป็นธรรม และปกป้องสิทธิมนุษยชน

จากข่าวที่มีการเผยแพร่ในทำนองที่ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนางซูจีเพิกเฉยต่อปัญหาความรุนแรงและเพิกเฉยต่อปัญหานี้ เธอยืนยันว่าทางรัฐบาลเมียนมากำลังทำงานกันอย่างหนัก เพื่อปกป้องสิทธิของชาวโรฮีนจา และไม่ให้เหตุการณ์ความรุนแรงขยายตัวออกไปมากกว่านี้ ส่วนข่าวที่แพร่ออกไปเป็นการใช้ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อเธอและรัฐบาลเมียนมา ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายฯ

ตามรายงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ระบุว่า กว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าชาวโรฮีนจาต้องอพยพหนีความรุนแรงที่เกิดจากการสู้รบขับไล่ในนรัฐยะไข่ เข้าสู่พรมแดนประเทศบังคลาเทศพุ่งสูงเกือบ 1.3 แสนคนแล้ว และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามการแถลงการณ์ของนางซูจีครั้งนี้ ไม่ได้กล่าวถึงการอพยพของชาวโรฮีนจาไปยังบังคลาเทศแต่อย่างไร ทั้งนี้นายเรเจป ไตยิป เอร์โดอานประธานาธิบดีตุรกี ได้พูดคุยกับนางซูจีผ่านทางโทรศัพท์เพื่อถามถึงสถานการณ์ในรัฐยะไข่ นางซูจีระบุว่าทางการเมียนยืนยันในการคุ้มครองปกป้องประชาชนทุกคนอย่างเต็มที่ และการใช้ความรุนแรงปราบผู้อพยพเป็นเพียงกระแสข่าวที่บิดเบือน เพื่อหวังผลของผู้ก่อการร้าย

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลายหน่วยงานโดยเฉพาะชาวมุสลิมจากทั่วโลกไม่พอใจต่อเหตุความรุนแรงที่รัฐบาลเมียนมาได้กระทำต่อชาวโรฮีนจา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ยึดรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากนางซูจี โดยอ้างว่าการกระทำของเธอและทางการเมียนมาขัดต่อเจตนารมณ์ของรางวัลโนเบลสันติภาพ ซึ่งมองว่าการใช้ความรุนแรงปราบกลุ่มก่อการร้ายชาวโรฮินจาเป็นการฆ่าล้างเผาพันธุ์ ล่าสุดมีคนเข้าไปลงนามถอดถอนรางวัลโนเบลคืนผ่านเว็บไซต์ Change.org กว่า 3.6 แสนคนแล้ว