
นักวิชาการเบรก ปิดรอยสักระหว่างการแข่งขันรักบี้โลกที่ญี่ปุ่น อาจเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดกลืนอัตลักษณ์คนพื้นเมือง
“เกรงว่าถ้าตอบรับง่าย ๆ ก็อาจเหมือนเรากำลังสมรู้ร่วมคิดให้เกิดการกดขี่มากยิ่งขึ้นอีก” ดร. Mera Penehira จาก Te Whare Wānanga o Awanuiārangi สถาบันศึกษาชนเผ่าเมารีในนิวซีแลนด์ แสดงความคิดเห็นหลังสมาคมรักบี้โลกออกมาเรียกร้องความร่วมมือทั้งจากนักกีฬาและแฟนกีฬารักบี้ทั่วโลกสำหรับการแข่งขัน Rugby World Cup ที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพในปีหน้า
Alain Gilpin ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน ยืนยันพร้อมกล่าวว่า “ไม่ได้บังคับ” หลายทีมตอบรับว่ายินดีปกปิดรอยสักเพื่อแสดงความเคารพต่อวัฒนธรรมของประเทศเจ้าภาพ
เป็นที่ทราบกันว่าในญี่ปุ่น คนที่มีรอยสักบนร่างกายมักถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งยากูซ่า และมักถูกห้ามไม่ให้เข้าใช้บริการสถานที่ที่ใช้ร่วมกับคนอื่น อย่างเช่น ยิม สระว่ายน้ำ ออนเซ็น
ด้านทีมรักบี้นิวซีแลนด์ แชมป์โลกหลายสมัย ซึ่งสมาชิกในทีมแทบทุกคนมีรอยสักที่เห็นเด่นชัด ได้ขานรับเสียงเรียกร้องนี้แทบจะในทันที “ไม่ว่าจะไปแข่งที่ไหน ทุกครั้งเราจยายามไม่ทำอะไรที่ขัดต่อธรรมเนียมและวัฒนธรรมของสถานที่นั้น” Nigel Cass ประธานสมาคมรักบี้นิวซีแลนด์กล่าว

แต่ดร. Penehira เป็นห่วงว่าการตอบรับตามเสียงเรียกร้องนี้อาจทำให้นิวซีแลนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการกลืนชาติพันธุ์ชาวไอนุ ชนพื้นเมืองดั้งเดิมในฮอกไกโดซึ่งก็มีวัฒนธรรมสักริมฝีปากผู้หญิงเพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความพร้อมเจริญพันธุ์ แต่เรื่องถูกกลืนหายไปพร้อมกับรากเหง้าของชาวไอนุ
เวลานี้ญี่ปุ่นอ้างว่ามีคนเชื้อสายไอนุอยู่ประมาณ 25,000 คนแต่ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการอาจสูงกว่า 200,000 คนเพราะหลายคนไม่รู้ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเป็นชาวไอนุ
ดร. Penehira ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการชี้ชัดว่าการปกปิดรอยสักเป็นเรื่องถูกหรือผิด แต่จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ลึกซึ้งมากขึ้น “เราไม่สามารถแยกการตัดสินใจในเรื่องวัฒนธรรมออกจากการเมืองได้ จำเป็นต้องเข้าใจวัฒนธรรมจากบริบททางการเมืองเพื่อให้ไม่ตกเป็นเครื่องมือ”
ที่มา World Rugby advises teams and supporters to cover up tattoos at World Cup in Japan
Talk over tattoos at Japan Rugby World Cup needs to include indigenous people -academic









