
ผอ.รพ.เกาหลีใต้ ที่ถูกไฟไหม้จนมีผู้เสียชีวิต 37 คน ยอมรับ “ไม่มีระบบสปริงเกลอร์ดับเพลิง” ตามที่กฎหมายกำหนด ขณะที่ ปธน.มุน แจ อิน เรียกประชุมฉุกเฉินรับมืออัคคีภัย หลังเกิดเหตุใหญ่ถึง 2 ครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์
ความคืบหน้าไฟไหม้รุนแรงที่โรงพยาบาลเซจง (Sejong) สูง 6 ชั้น ในเมืองมิรายัง จังหวัดกยองซัมนัม ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ 280 กม. เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 61 ตามเวลาท้องถิ่น 7.30 น. ซึ่งต้นเพลิงอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน ชั้น 1 ของ รพ. ก่อนลุกลามเกือบ 2 ชั่วโมง

โดยทางการยืนยันยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 37 คน ส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ และมีเจ้าหน้าที่ของ รพ. อย่างน้อย 3 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เนื่องจากร่างผู้เสียชีวิตถูกไฟไหม้เกรียม และมีผู้บาดเจ็บราว 150 คน ส่วนใหญ่ถูกไฟไหม้และสำลักควัน
เหตุไฟไหม้โรงพยาบาลเซจง มีขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังเหตุเพลิงไหม้ฟิตเนส อาคารพาณิชย์ 8 ชั้น ในเมืองเจซอน เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2560 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 29 คน

ประธานาธิบดีมุน แจ อิน ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ครอบครัวผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์สุดสลดครั้งนี้ ก่อนประชุมรับมือฉุกเฉิน หลังเกิดเหตุอัคคีภัยใหญ่ถึง 2 ครั้ง ในระยะเวลา 1 เดือน
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศที่มีภาคเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย เผชิญกับเสียงวิจารณ์ด้านมาตรฐานความปลอดภัยที่ตกต่ำ รวมถึงโศกนาฏกรรมเรือเซวอล (Sewol) ล่มเมื่อปี 2557 ทำให้บุคลากรและนักเรียนเสียชีวิตมากกว่า 300 คน และยังมีผู้สูญหายที่ครอบครัวยังคงมีความหวังพบร่าง

นอกจากนี้ในปีเดียวกัน ไฟไหม้โรงพยาบาลในชนบท มีผู้เสียชีวิต 21 คน ขณะที่ในปี 2551 ไฟไหม้คลังสินค้านอกกรุงโซล มีผู้เสียชีวิต 40 คน
เรื่องนี้เป็นประเด็นให้พรรคฝ่ายค้านโจมตีรัฐบาลประธานาธิบดีมุน ว่าล้มเหลวในการรักษาความปลอดภัยของชาวเกาหลีใต้ และเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูปแผนแม่บทมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อชาวเกาหลีใต้ให้ดีกว่านี้









