ประเด็นความขัดแย้งทางทะเลระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ลากยาวมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว โดยยังคงพบเรือสัญชาติจีนอยู่ในพื้นที่พิพาทระหว่างทั้งสองประเทศ
วันที่ 4 เม.ย. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานแถลงการณ์ของ เดลฟิน ลอเรนซานา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของฟิลิปปินส์ ที่ออกมาเรียกร้องให้จีนเคารพอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล หลังพบว่ายังคงมีเรือสัญชาติจีนรุกล้ำเข้ามายังพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์
The utter disregard by the Chinese Embassy in Manila of international law specially the UNCLOS to which China is a party is appalling. The Philippines’ claims stand on solid ground, while China’s do not. China should respect Philippine sovereignty, and its rights over EEZ. pic.twitter.com/CITCcj9bOS
— Delfin Lorenzana (@del_lorenzana) April 4, 2021
ตามแถลงการณ์ระบุว่า การปรากฎตัวของทหารจีนในพื้นที่ เป็นการแสดงถึงความตั้งใจที่จะเข้าครอบครองเขตทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก โดยจีนเคยกระทำการเช่นนี้มาก่อน ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของฟิลิปปินส์และสิทธิอธิปไตยภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
ความขัดแย้งระลอกนี้เริ่มขึ้นหลังจากที่เรือสัญชาติจีนกว่า 200 ลำ เข้ามาทอดสมอในพื้นที่ขัดแย้งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค. โดยทางกระทรวงการต่างประเทศของจีนยืนยันว่าเป็นเพียงเรือประมงที่เข้ามาทอดสมอเพื่อหลบจากสภาพอากาศเลวร้ายเท่านั้น
ก่อนหน้าที่จะออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ นายลอเรนซานาได้เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า เอกอัคราชทูตจีนประจำประเทศฟิลิปปินส์มีหลายเรื่องที่ต้องอธิบาย เพราะยังมีเรือจีนเหลืออยู่ 44 ลำ ตนเองไม่ใช่คนโง่ ที่ผ่านมาสภาพอากาศเป็นปกติดี จึงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เรือเหล่านี้จะไปอยู่ตรงพื้นที่ดังกล่าว
ที่ผ่านมา รัฐบาลฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โรดริโก ดูแตร์เต ได้สร้างสัมพันธไมตรีกับจีนมากขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้งในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ โดยฟิลิปปินส์ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่จีนบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้อีกด้วย
แต่ในช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ความขัดแย้งในพื้นที่ทางทะเลได้ถูกจุดขึ้นมาอีกรอบ และชาวฟิลิปปินส์เองก็มีการแสดงจุดยืนต่อต้านจีนในโซเชียลมีเดีย จนทำให้ทางรัฐบาลเองออกมาแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวมากยิ่งขึ้น










