ประเด็น – ศาลญี่ปุ่นสั่งให้บริษัทที่ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิชิ จ่ายค่าเสียหายแก่ประชาชนชาว จ.ฟุกุชิมะ ที่ได้รับผลกระทบหลังจากอุบัติเหตุกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล
วันนี้ (22 ก.ย. 2560) สำนักข่าวเอ็นเอชเครายงานว่า ศาลแขวงชิบะ สั่งให้บริษัทโตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ (TEPCO : เทปโก) ซึ่งดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิชิ ต้องจ่ายค่าชดเชยกว่า 3.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 112 ล้านบาท ต่อโจทก์ 45 ราย ซึ่งเป็นยื่นฟ้องเทปโกและรัฐบาลญี่ปุ่น แต่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยดังกล่าว
ผู้ร้องเรียนกล่าวว่า พวกเขาต้องอพยพออกจากบ้าน เนื่องจากเหตุการณ์ภัยพิบัตกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลที่เกิดจากความเสียหายของโรงไฟฟ้านิวเคลียส์ฟุกุชิมะ ไดอิชิ ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.9 และสึนามิ เมื่อเดือนมีนาคม 2554 โดยร้องเรียนค่าเสียหายกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 800 ล้านบาท
ภาพซากห้องเรียนในเซนได (16 มี.ค. 2554)
อย่างไรก็ตาม นายมาซารุ ซะคะโมโตะ ผู้พิพากษากล่าวว่า เทปโกไม่ได้บกพร่องจากการใช้มาตรการป้องกันความเสี่ยงจากสึนามิ และไม่ได้เป็นความผิดพลาดร้ายแรง แต่ก็ควรที่จะจ่ายค่าชดเชยเนื่องจากอุบัติเหตุโรงไฟฟ้าส่งผลให้เกิดความทุกข์ทรมานทางจิตใจ
แต่ว่าการตัดสินในครั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้พิพากษากล่าวว่า แม้ว่าตั้งแต่ปี 2549 เจ้าหน้าที่สามารถคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่จะเกิดสึนามิที่อาจจะส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าได้ ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นสิ่งจะสามารถป้องกันเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
3 วันหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.9 และสึนามิ ที่เซนได (14 มี.ค. 60)
ชายชาวญี่ปุ่นถือภาพเด็กๆ ท่ามกลางซากปรักหักพังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.9 ที่เซนได (14 มี.ค. 60)
นี่เป็นการตัดสินของศาลครั้งที่ 2 เกี่ยวกับคดีนี้ ครั้งแรกตัดสินเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมี 12,000 คนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเทปโกและรัฐบาลญี่ปุ่น ผลการตัดสินในครั้งแรก ศาลแขวงมาเอะบะชิตัดสินว่า ทั้งเทปโกและรัฐบาลญี่ปุ่นต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสั่งให้ทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นและเทปโกต้องชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งที่ผ่านประชาชนออกมาต่อต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นจำนวนมาก รวมทั้งทั้งเทปโกและรัฐบาลญี่ปุ่นถูกวิจารณ์อย่างหนักในการแก้ไขปัญหาและรับมือผลกระทบจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
