
สัปดาห์หน้าทรัมป์เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กร้อยละ 25 และอะลูมิเนียมร้อยละ 10 เพื่อลดการเสียเปรียบทางการค้าของสหรัฐฯ ขณะที่คู่ค้าหลักแสดงความไม่พอใจ ด้านโตโยต้าเตือน ราคารถยนต์จะเพิ่มสูงขึ้น
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ กล่าวผ่านทวิตเตอร์ @realDonaldTrump เมื่อวานนี้ (1 มี.ค. 2561) ว่า เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กร้อยละ 25 และขึ้นภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมร้อยละ 10 ในสัปดาห์หน้า เพื่อลดการค้าและนโยบายที่สหรัฐฯ เสียเปรียบและไม่เป็นธรรม จากคู่ค้ารายหลักของสหรัฐฯ ทั้งจีน ยุโรป รวมทั้งแคนาดา
Our Steel and Aluminum industries (and many others) have been decimated by decades of unfair trade and bad policy with countries from around the world. We must not let our country, companies and workers be taken advantage of any longer. We want free, fair and SMART TRADE!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) 1 มีนาคม 2561
“อุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ (และอื่นๆ อีกมากมาย) ได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้ากับต่างประเทศที่ไม่เป็นธรรมมานานหลายสิบปี เราต้องไม่ปล่อยให้ประเทศ บริษัท และแรงงานของพวกเรา ถูกใช้ประโยชน์อีกต่อไป เราต้องการความยุติธรรมและการค้าที่ชาญฉลาด” ทรัมป์กล่าวผ่านทวิตเตอร์

ทางบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การขึ้นภาษีนำเข้าของเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ จะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคารถยนต์และรถบรรทุกที่ขายในอเมริกาสูงขึ้น
นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อผู้จำหน่ายรถยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ และผู้บริโภค ซึ่งกว่าร้อยละ 90 ของวัตถุดิบเหล็กและอะลูมิเนียมที่ใช้ผลิตรถยนต์โตโยต้าก็มาจากที่สหรัฐฯ นำเข้ามาในประเทศ
แคนาดาและสหภาพยุโรปผู้ส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดไปยังสหรัฐฯ ด้วยมูลค่ามากกว่า 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กล่าวว่า พวกเขาจะหาทางตอบโต้ต่อมาตรการขึ้นภาษีใหม่นี้ โดยทางการแคนาดากล่าวว่าเป็นสิ่งที่ “ยอมรับไม่ได้” แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร
ส่วนประเทศที่ส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมไปยังสหรัฐฯ รองลงมาได้แก่ เกาหลีใต้ มูลค่าประมาณ 270 ล้านดอลลาร์ เม็กซิโก มูลค่าประมาณ 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามด้วยบราซิล ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน รัสเซีย ตุรกี ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์ยืนยันว่าการขึ้นภาษีนำเข้านี้ จะทำให้นโยบายปกป้องงานของชาวอเมริกันล้มเหลว และทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น









