
ประเด็น – นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นและพรรคร่วมรัฐบาล ชนะการเลือกตั้งทั่วไปอย่างถล่มทลาย กวาดที่นั่ง 2 ใน 3 ของสภา เพิ่มบทบาทกองทัพและแก้ไขปัญหาเกาหลีเหนือ
วันที่ 23 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวญี่ปุ่นรายงานผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่น โดยระบุว่า ทั้งพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือแอลดีพี ของนายชินโซ อาเบะ และพรรคโคเม ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิม สามารถได้ที่นั่งรวมกันในสภาผู้แทนราษฎรแล้วถึง 312 ที่นั่ง จาก 465 โดยคิดเสียงในสภาถึง 2 ใน 3 ซึ่งพรรคแอลดีพีเองที่ได้ไปถึง 283 ที่นั่ง ก็มากกว่ากึ่งหนึ่งที่ 233 ที่นั่ง

ยูริโกะ โคอิเกะ
ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน ซึ่งรวมถึงพรรคความหวัง ของนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวด้วย ได้ไปเพียง 125 ที่นั่ง
ชัยชนะของนายอาเบะในครั้งนี้ จะทำให้เขาสามารถดำเนินการตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจรวมไปถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อการฟื้นฟูสถานะกองทัพและการทหารของประเทศ และแก้ไขปัญหากับเกาหลีเหนือร่วมกับพันธมิตรอย่างสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง

คณะกรรมการเลือกตั้งเปิดเผยว่า พบตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนมากขึ้นในช่วงเช้าก่อนเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12.54 เทียบกับการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2559 ที่คิดเป็นร้อยละ 11.08 ซึ่งล่าสุดการนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากบางพื้นที่ยังไม่สามารถเริ่มการนับคะแนนได้ และอาจจะเริ่มนับคะแนนได้อย่างเร็วที่สุดในวันนี้ เนื่องจากระบบสื่อสารที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น จากตามปกติแล้ว การนับคะแนนจะเริ่มต้นอย่างเร็วที่สุดในช่วงที่ปิดคูหา เวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น

นายชินโซ อาเบะ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 57 ของญี่ปุ่นจากพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2555 – ปัจจุบัน ถือเป็นสมัยที่ 3 หลังจากเข้ารับตำแหน่งสมัยแรก เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2549
โดยการชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะเป็นสมัยที่ 4 ของเขา หากรัฐบาลชุดใหม่สามารถบริหารงานต่อไปจนถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกกรุงโตเกียว ในปี 2020 ได้ นายอาเบะจะเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่
ขณะที่โฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ระบุว่า สหรัฐฯ มีท่าทีแสดงความยินดีและเดินหน้าทำงานร่วมกับญี่ปุ่นในฐานะพันธมิตรในประเด็นต่างๆ ที่เผชิญทั้งในภูมิภาคและระดับโลก เช่นปัญหาความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ โดยทั้ง ปธน.ทรัมป์ มีกำหนดการเยือนญี่ปุ่นในเดือนหน้า (พฤศจิกายน)









