รายงานแอมเนสตี้กล่าวโทษทหารยูเครนว่าปฏิบัติการในพื้นที่เสี่ยงเป็นอันตรายต่อพลเรือน ฝั่งเซเลนสกีสวนกลับว่าไม่ควรหาความชอบธรรมให้ผู้ก่อการร้าย
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติเปิดเผยรายงานที่ชื่อว่า Ukrainian fighting tactics endanger civilians (แผนรบของยูเครนทำให้พลเรือนตกอยู่ในอันตราย) ลงวันที่ 4 ส.ค. 2022 ซึ่งกล่าวหาว่ากองทัพยูเครนมีการตั้งฐานและใช้งานระบบอาวุธในที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น รวมไปถึงโรงเรียนและโรงพยาบาล
แผนในลักษณะดังกล่าวเป็นการขัดต่อกฎหมายมนุษยธรรมนานาชาติ และทำให้พลเรือนตกอยู่ในอันตราย เป็นการเปลี่ยนสิ่งก่อสร้างพลเรือนให้เป็นเป้าหมายทางทหาร จนทำให้ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย
อักเนส คัลลามาร์ เลขาธิการใหญ่ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ยืนยันว่า การตกเป็นฝ่ายตั้งรับไม่ได้ทำให้กองทัพยูเครนได้รับการยกเว้นที่จะไม่สนใจต่อกฎหมายมนุษยธรรมนานาชาติได้
อย่างไรก็ตาม ทางแอมเนสตี้ย้ำว่า การปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่มีคนอยู่อาศัยของกองทัพยูเครน ไม่ได้หมายความว่าการที่รัสเซียสังหารคนแบบไม่เลือกหน้านั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแต่อย่างใด
หลังจากนั้นไม่นาน ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้ออกมาโต้กลับรายงานฉบับดังกล่าวทันที โดยกล่าวว่า การที่รัสเซียโจมตีพลเรือนนั้น ไม่สามารถถูกมองว่าเป็นสิ่งชอบธรรมได้เลยไม่ว่าในเงื่อนไขใดก็ตาม
ผู้นำยูเครนยังได้กล่าวหาแอมเนสตี้กลับไปว่า การสร้างข้อมูลใดๆ ขึ้นมาเพื่อที่จะหาความชอบธรรมหรือทำให้การโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ขอให้เข้าใจไว้ว่า การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการช่วยเหลือผู้ก่อการร้ายเลย










