การระงับการประชุมสภาไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม ถือว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของนายบอริส จอห์นสัน เรียกว่าเป็นการมูฟที่ฮือฮา และส่งผลกระทบไปวงกว้าง
บอริส จอห์นสัน ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันที่ 24 กรกฎาคม 2562 โดยมีภารกิจที่ทั่วโลกจับตาคือการนำพาสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป หรือที่เรียกกันคุ้นปากว่า BREXIT
เส้นตาย BREXIT คือวันที่ 31 ตุลาคม 2562 สหราชอาณาจักรมีสองทางเลือกคือ ออกจากสหภาพยุโรปแบบมีหรือไม่มีข้อตกลง ในสายตานักวิเคราะห์ มองว่าถ้าเป็นอย่างหลัง อาจจะส่งผลถึงขนาดทำให้อังกฤษเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนัก แต่จอห์นสันประกาศมั่นแล้วว่าจะพาสหราชอาณาจักรออกจากยุโรปให้ได้ แม้จะต้องเป็นแบบไม่มีข้อตกลงก็ตาม

การตัดสินใจครั้งนี้ของบอริส จอห์นสัน ทำให้คนไม่พอใจไม่น้อย
กลับมาที่เรื่องการสั่งระงับประชุมสภา
การระงับประชุมสภาแบบนี้ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Prorogue ซึ่งไม่ใช่คำที่จะใช้กันบ่อยๆ และอีกจุดที่สำคัญคือการสั่งระงับแบบนี้ พระราชินีเอลิซาเบ็ธในฐานะประมุขแห่งรัฐ จะทรงลงพระนามอนุมัติด้วย
โดยเราต้องเข้าใจข้อเท็จจริงที่สำคัญกันก่อน ว่าการที่ขอระงับประชุมและประมุขแห่งรัฐทรงลงพระนามอนุมัตินั้น ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทำมาตลอด เช่น บ่อยครั้งที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ รัฐบาลอังกฤษมักจะขอระงับการประชุมสภาเอาไว้ เพื่อขอเวลาในการกำหนดทิศทางการทำงาน ออกแบบนโยบายกันก่อน
และไม่ว่าพระราชินีเอลิซาเบ็ธจะทรงเห็นชอบด้วยหรือไม่ พระองค์ก็จะทรงอนุมัติ ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันดีว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่การตัดสินพระทัยของพระองค์ แต่เป็นการสนองตามคำแนะนำของรัฐบาล

โดยธรรมเนียมปฏิบัติพระราชินีเอลิซาเบ็ธจะตรัสและลงนามบนพื้นฐานของคำแนะนำจากรัฐบาล
ดังนั้น ความโกรธแค้นของคนที่ไม่เห็นด้วยกับการระงับการประชุมสภาครั้งนี้จึงพุ่งเป้ามาที่นายบอริส จอห์นสัน และรัฐบาล มากกว่า
สิ่งที่ทำให้คนไม่พอใจกันมาก คือจังหวะและวิธีในการระงับประชุมสภา ข้อแรกเรื่องของจังหวะ ว่าเป็นช่วงสำคัญ ช่วงที่ใกล้เข้าสู่เดดไลน์ของ BREXIT แทนที่รัฐบาลจะเปิดประชุมสภาเพื่อให้ฝ่ายค้านและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม แต่กลับตัดสินใจระงับการประชุมสภา
ข้อที่สองคือการสั่งระงับประชุมสภานานถึง 5 สัปดาห์ ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1945 เลยด้วยซ้ำ แถมก่อนหน้านี้บรรดารัฐมนตรีของบอริสก็ยืนยันว่าจะไม่มีการระงับประชุมสภา ซึ่งเมื่อรวมสองมูลเหตุแล้วก็ทำให้ผู้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าบอริส จอห์นสัน ตั้งใจระงับประชุมสภา เพื่อส่งผลให้แผนการออกจาก BREXIT แบบไม่มีข้อตกลงบรรลุผลให้ได้หรือไม่
บอริส จอห์นสัน มักจะยกผลการลงประชามติเมื่อปี 2016 ว่าผ่านการรับรองจากเสียงส่วนมากมาแล้ว มาเป็นเหตุผลในปฏิบัติการณ์ BREXIT ของเขา
แต่ถึงจุดนี้กลายเป็นว่าการตัดสินใจของเขานั้นไปสะเทือนถึงประมุขแห่งรัฐ และสถาบันสำคัญของประเทศ จนนำมาสู่ความไม่พอใจของประชาชน ที่แสดงออกผ่านทั้งการประท้วงบนท้องถนน และรวบรวมรายชื่อในโลกออนไลน์ได้กว่าล้านคน

คนอังกฤษลงนามไม่เห็นด้วยกับการระงับประชุมสภากว่าล้านคนแล้ว









