สถานทูตจีนมอบเอกสารอย่างไม่เป็นทางการแก่สื่อ ระบุถึงความไม่พอใจ 14 ข้อที่มีต่อรัฐบาลออสเตรเลีย
วันที่ 19 พ.ย. 2563 เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ เดอะซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ (The Sydney Morning Herald) เผยว่าได้รับเอกสารฉบับหนึ่งจากทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ที่มีเนื้อหากล่าวโจมตีรัฐบาลออสเตรเลีย ต่อแนวทางปฏิบัติที่มีต่อประเทศจีน
ตามรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตจีนมอบเอกสารฉบับนี้แก่สื่อออสเตรเลียอย่างน้อย 3 แห่ง โดยมีข้อความแสดงความไม่พอใจแบ่งเป็น 14 ข้อด้วยกัน ซึ่งมีเนื้อหาคร่าวๆ ดังนี้
- ปฏิเสธโครงการลงทุนของจีนกว่า 10 โครงการ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล
- แบน Huawei และ ZTE จากระบบ 5G โดยได้รับอิทธิพลของสหรัฐฯ
- ก้าวก่ายด้านกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมุ่งเป้าไปที่จีน
- แทรกแซงการค้าระหว่างจีนและออสเตรเลีย รวมถึงยกเลิกวีซ่าของนักศึกษาจีน
- เรียกร้องให้นานาชาติเข้าตรวจสอบไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นการบิดเบือนทางการเมืองเพื่อสนับสนุนสหรัฐฯ ในการโจมตีประเทศจีน
- ก้าวก่ายประเด็นเรื่องมณฑลซินเจียง ฮ่องกง และไต้หวัน ในเวทีนานาชาติ
- แถลงต่อสหประชาชาติในประเด็นทะเลจีนใต้ โดยเป็นชาติแรกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
- เข้าข้างสหรัฐฯ ในแคมเปญต่อต้านจีน ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเรื่องการควบคุมโควิด-19 ของจีน
- ทำลายข้อตกลงการสร้างเส้นทางการค้าระหว่างจีนกับรัฐวิกตอเรีย
- สนับสนุนงบแก่ผู้ที่เผยแพร่แนวความคิดต่อต้านจีนให้ผลิตรายงานที่ไม่เป็นความจริง
- ตรวจค้นและจับกุมนักข่าวชาวจีนโดยไร้ข้อหาและคำอธิบาย
- กล่าวหาจีนว่าทำการโจมตีทางไซเบอร์โดยไม่มีหลักฐาน
- ประณามพรรคที่บริหารรัฐบาลจีนผ่านทางสมาชิกสภา และเหยียดเชื้อชาติชาวจีนและชาวเอเชีย
- รายงานอย่างไม่เป็นมิตรและเป็นปฏิปักษ์ต่อจีนผ่านสื่อ ทำลายบรรยากาศความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของจีนยังกล่าวต่อสื่อในการแถลงที่กรุงแคนเบอร์ราว่า “จีนกำลังโกรธ ถ้าคุณทำให้จีนเป็นศัตรู จีนก็จะเป็นศัตรู”
ด้านนายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลียเปิดเผยว่าได้เห็นเอกสารอย่างไม่เป็นทางการจากสถานทูตจีนแล้ว และยืนยันว่าจะไม่ยอมสูญเสียคุณค่า ประชาธิปไตย และเอกราช เพื่อแลกกับข้อเรียกร้องใดๆ
“ออสเตรเลียจะเป็นตัวของตัวเองอยู่เสมอ เราจะใช้กฎหมายของเราเองในเรื่องผลประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่จากคำสั่งของชาติอื่น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ จีน หรือชาติใดๆ ก็ตาม”










