สถานีโทรทัศน์ CCTV ตัดสัญญาณถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่ลิเวอร์พูล-เชลซี ตอบโต้อังกฤษแบนหัวเว่ย

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า สถานีโทรทัศน์ CCTV สื่อโทรทัศน์รายใหญ่ของจีน ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้ทำการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดในเกมที่ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะเชลซี 5-3 เมื่อคืนที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวยิ่งตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันย่ำแย่ระหว่างจีนและอังกฤษ ด้านนายมาร์ก แทนเนอร์ (Mark Tanner) ผู้ก่อตั้งบริษัทไชน่าสกินนี่ ที่ดำเนินงานวิจัยและการตลาดกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงการตอบโต้โลกตะวันตกของจีนในกรณีฮ่องกงและหัวเว่ย
โดยเมื่อ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจที่จะแบนหัวเว่ยจากระบบ 5G ของประเทศ โดยให้เหตุผลว่าต้องการความโปร่งใสและความแน่นอน โดยรายละเอียดคำสั่งที่ออกมาครั้งนี้ระบุว่า ห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการด้านคมนาคมทำการติดตั้งระบบ 5G โดยใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยหลังจากวันที่ 31 ธ.ค. 2020 และอุปกรณ์ที่ติดตั้งไปแล้ว ต้องถูกถอดออกทั้งหมดภายในปี 2027
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เดินทางเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจีน เช่นกรณีกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในมณฑลซินเจียง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนระงับการถ่ายทอดสดกีฬาจากประเทศตะวันตก โดยเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา CCTV ตัดสินใจ ยกเลิกโปรแกรมการถ่ายทอดสดบาสเกตบอล NBA หลังจากที่ดาริล มอเรย์ ผู้จัดการทีมฮุสตัน ร็อคเกตส์ ทวีตรูปที่มีข้อความว่า “Fight for freedom, Stand with Hong Kong” ซึ่งแปลว่า “ต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ขอยืนอยู่ข้างฮ่องกง” ซึ่งทีมฮุสตันถือเป็นทีมที่มีแฟนๆ ชาวจีนติดตามมากที่สุด นอกจากนี้บริษัทจีนรายใหญ่อย่าง Vivo, Tencent, Li-Ning, Anta และอาลีบาบาต่างออกมาบอยคอตและประท้วงทีมฮุสตัน ร็อคเกตส์ในกรณีดังกล่าว










