จีนเสนอระบบซื้อตั๋วรถไฟจีน แอปฯ เดียวเดินทางได้กว่า 140 ประเทศจ่ายด้วยสกุลเงินฟรังก์สวิส

จีนเสนอระบบซื้อตั๋วรถไฟจีน แอปฯ เดียวเดินทางได้กว่า 140 ประเทศจ่ายด้วยสกุลเงินฟรังก์สวิส

จีนเสนอระบบซื้อตั๋วรถไฟจีน เดินทางได้กว่า 140 ประเทศในแอปฯ เดียว รับชำระเงินด้วยสกุลเงินฟรังก์สวิส แทนดอลลาร์สหรัฐ

เว็บโซต์ Channel NewsAsia ของสิงคโปร์ รรายงานว่า จีนได้พัฒนาแอปพลิเคชันจำหน่ายตั๋วรถไฟจีนครบวงจร เพื่อให้บริการในประเทศที่อยู่ตามแนวเส้นทางยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative มากกว่า 140 ประเทศ 

โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวเริ่มให้บริการในประเทศลาวเป็นประเทศแรก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา 

รายงานข่าวระบุว่า แอปฯ ซื้อตั๋วรถไฟนี้ ได้รับพัฒนาโดยทีมนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากสถาบันศึกษาวิทยาศาสตร์รถไฟของจีน หรือ CARS (China Academy of Railway Sciences Corporation) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยที่ดูแลการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการรถไฟของรัฐบาลจีน 

จากการเปิดเผยของทีมนักพัฒนา แอปฯ นี้ได้รับการพัฒนามาเพื่อเป็นแพลตฟอร์มซื้อตั๋วรถไฟครบวงจรที่สามารถใช้งานได้อย่างกว้างขวางในกว่า 140 ประเทศ โดยจะใช้สกุลเงินฟรังก์สวิสเป็นสกุลเงินกลางสำหรับการชำระค่าตั๋วรถไฟที่ซื้อภายในแอป  แทนที่จะเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

รายงานยังระบุด้วยว่า แอปฯ ซื้อตั๋วรถไฟที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้ เป็นเวอร์ชันสากลที่พัฒนาต่อยอดมาจากแพลตฟอร์มจองตั๋วรถไฟจีนที่มีชื่อว่า 12306 ซึ่งให้บริการรับจองตั๋วรถไฟภายในประเทศมาตั้งแต่ปี 2554 

ที่ผ่านมา จีนได้พยายามพัฒนาแพลตฟอร์ม 12306 ซึ่งมีบริการทั้งบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมาโดยตลอด หลังจากที่ช่วงแรกที่เริ่มให้บริการได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความขัดข้องของระบบ 

รัฐบาลจึงได้ไปขอความร่วมมือจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในประเทศ มาช่วยสร้างระบบใหม่ จนทำให้ปัจจุบัน 12306 เป็นแอปฯ ซื้อตั๋วเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศ มีสมาชิกเกือบ 700 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของประชาชนทั้งประเทศจีน

โดยรัฐบาลจีนเผยว่า ในช่วงวันหยุดที่ประชาชนเดินทางหนาแน่น เช่น วันตรุษจีน แอปฯ ซื้อตั๋วโดยสารสามารถรองรับนักเดินทางได้ 200,000 คนต่อวัน โดยจะสามารถออกตั๋วได้มากกว่า 1,500 ใบต่อวินาทีโดยไม่มีข้อผิดพลาด 

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative ของจีน เป็นยุทธศาสตร์การลงทุนระยะยาวข้ามทวีปของจีน ที่มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ ตามแนวเส้นทางสายไหม (Silk Road) ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าในอดีตระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ 

ปัจจุบันมีประเทศที่อยู่ในแนวเส้นทางยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative จำนวน 147 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศแถบแอฟริกาใต้สะฮารา 43 ประเทศ, ยุโรป และเอเชียกลาง 35 ประเทศ, เอเชียตะวันออกและแปซิฟิก 25 ประเทศ, ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 20 ประเทศ, ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ 18 ประเทศ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 6 ประเทศ

 

ที่มา Channel News Asia

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง