ชาวจีนหลายพันคนออกมาเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอย่างคึกคัก แม้ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังรัฐบาลพยายามสร้างความมั่นใจ สถานการณ์การระบาดใกล้ถึงจุดสูงสุด และอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
สื่อต่างประเทศเผยภาพบรรยากาศการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ในจีน ขณะกำลังเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคเข้มงวดที่ใช้มานานเกือบ 3 ปี ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จนหลายฝ่ายเกิดความกังวลว่าอาจกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศซึ่งยังไม่มีความพร้อมมากพอในการรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมาก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีชาวจีนหลายพันคนออกมาเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กันในหลายเมืองทั่วประเทศ แม้ว่าประชาชนในเมืองใหญ่ๆ ยังคงไม่กล้าออกมารวมตัวกัน เนื่องจากกลัวว่าจะมีการกระจายเชื้อโควิด-19
รายงานระบุว่า จากภาพบรรยากาศที่สังเกตเห็นในหลายเมือง แสดงให้เห็นว่าชาวจีนเริ่มมีความกลัวที่จะติดโรคโควิด-19 ลดลง จากความพยายามของรัฐบาลและสื่อของรัฐที่ส่งสารต่อสาธารณชนว่า ตอนนี้สถานการณ์การระบาดใกล้ถึงจุดสูงสุด และอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
โดยชาวเมืองอู๋ฮั่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตรวจไวรัสเป็นที่แรกเมื่อปลายปี 2562 ก่อนจะเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก เปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เริ่มลดลงแล้ว เนื่องจากประชาชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคมากขึ้น
“จริงๆ แล้ว ตอนนี้ผมกับเพื่อนเริ่มรู้สึกดี และมองโลกในแง่ดีกันมากขึ้น หลายคนเริ่มกล้าจะออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน เพราะเราทุกคนรู้ดีว่า ไวรัสจะกระทบกับผู้สูงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี” ชาวเมืองอู๋ฮั่น วัย 29 ปี เผยกับรอยเตอร์ส
ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนต้องเผชิญกับข้อกังขาเรื่องการปกปิดตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยมีรายงานตัวเลขทางการออกมาน้อยกว่าสถานการณ์จริงอย่างมาก จนองค์การอนามัยโลก (WHO) เคยออกมาเรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสเพื่อประโยชน์ในการประเมินสถานการณ์อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์สได้ตั้งข้อสังเกตว่า ชาวจีนเริ่มมีความคิดต่อโรคโควิด-19 เปลี่ยนไปหลังจากที่รัฐบาลพยายามสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว โดย สำนักข่าวซินหัว ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล ระบุในบทบรรณาธิการที่มีการเผยแพร่ในวันนี้ (1 ม.ค.) ว่า กลยุทธ์ที่รัฐบาลใช้อยู่ในปัจจุบันคือ “แนวทางที่วางแผนไว้บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ ซึ่งสะท้อนถึงธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปของไวรัส”
รายงานของซินหัวมีการอ้างถึงข้อความตอนหนึ่งในสุนทรพจน์วันขึ้นปีใหม่ ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่ระบุว่า จีนให้ความสำคัญกับประชาชนและชีวิตเป็นอันดับหนึ่งมาตลอดตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีการปรับเปลี่ยนการรับมือโรคโควิด-19 ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปบนแนวทางแบบมุ่งเป้าและอิงวิทยาศาสตร์ เพื่อปกป้องชีวิตและสุขภาพของประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ด้วยความพยายามเป็นพิเศษ เราได้เอาชนะความยากลำบากและความท้าทายที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าว พร้อมชี้ว่าจีนเข้าสู่ระยะใหม่ของการรับมือโรคโควิด-19 ที่ยังคงมีความท้าทายหนักหน่วง จึงเรียกร้องประชาชนจีนเพิ่มความพยายามยิ่งขึ้นเพื่อการก้าวผ่าน “ความบากบั่นอุตสาหะและความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันย่อมหมายถึงชัยชนะ”
สื่อของรัฐบาลจีนยังระบุด้วยว่า รัฐบาลเร่งผลิตยาเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยขณะนี้มีการผลิตยาแก้ปวดไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) และพาราเซตามอล (Paracetamol) 190 ล้านเม็ดต่อวัน เพิ่มขึ้นจากประมาณการผลิตในช่วงต้นเดือน ธ.ค. ถึง 5 เท่า










