เซี่ยงไฮ้พบคลัสเตอร์ร้านชานมไข่มุก พบพนักงาน 3 คนติดโควิดจากผู้เดินทางกลับจากสหรัฐฯ พบผ่านการกักตัว-ตรวจโควิดมาแล้ว 4 ครั้งผลเป็นลบ ขณะที่ประชาชนหวั่นถูกล็อกดาวน์ ห้ามออกจากเมืองช่วงตรุษจีน
วันที่ 15 ม.ค. 2565 เว็บไซต์ SCMP สื่อภาษาอังกฤษของฮ่องกง รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในนครเซี่ยงไฮ้ เมืองเศรษฐกิจสำคัญของจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องกลับมาใช้มาตรการเข้มข้นอีกครั้ง หลังพบพนักงาน 3 คนของร้านชานมไข่มุกแห่งหนึ่งติดโควิด-19 โดยในจำนวนนี้ 2 คนติดเชื้อและมีอาการป่วย ส่วนอีก 1 คนติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ
ทางการท้องถิ่นของจีนระบุว่า พนักงานของร้านติดเชื้อโควิดมาจากนักเรียนคนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ โดยที่น่าสนใจคือนักเรียนรายนี้ผ่านการกักตัวตามมาตรการเข้มงวดของรัฐบาลจีนเป็นเวลา 14 วัน ผ่านการตรวจโควิดมาแล้ว 4 ครั้งไม่พบเชื้อ
จนกระทั่งนักเรียนรายนี้เข้าสู่กระบวนการกักตัวที่บ้านอีก 7 วันเพื่อดูอาการ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอนุญาตให้ออกจากบ้านได้แต่ต้องหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก นักเรียนคนนี้ได้เดินทางไปร้านชานมไข่มุก ก่อนถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19
การติดเชื้อที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนบางส่วนแสดงความเห็นไม่พอใจต่อนักเรียนคนนี้ โดยมองว่าที่ผ่านมา ชาวจีนในประเทศพยายามทำทุกวิถีทางให้ประเทศจีนปลอดภัย แต่ก็มีนักเรียนคนนี้ที่นำไวรัสเข้าประเทศ ขณะที่บางส่วนก็วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลที่ดูเหมือนจะหละหลวมเกินไป
เหตุการณ์นี้ทำให้นครเซี่ยงไฮ้สั่งให้ประชาชนที่อยู่ระหว่างการกักตัวที่บ้านไม่ควรออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น และจะถูกลงโทษหนักหากฝ่าฝืน นอกจากนี้ยังสั่งห้ามคณะทัวร์ไปเที่ยวข้ามมณฑลแล้ว ท่ามกลางความกังวลว่า ทางการเซี่ยงไฮ้จะสั่งล็อกดาวน์ ห้ามประชาชนเดินทางข้ามพื้นที่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้หรือไม่
ในตอนนี้รัฐบาลจีนกำลังใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด-สั่งตรวจโควิดประชาชนทุกคนในหลายเมือง หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนในหลายพื้นที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ workpointTODAY เพิ่งสรุปถึงความน่ากังวลว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งมีแนวโน้มแพร่เชื้อเร็ว และผู้ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการป่วย อาจทำให้เป้าหมายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีนถึงทางตัน ติดตามที่คลิปนี้
