ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่ยอมกักตัวอยู่บ้าน แม้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เพราะต้องการดูแลลูกและภรรยา – สุดท้ายกลายเป็นปมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงมาตรฐานการบังคับใช้มาตรการ
ที่ปรึกษาคนนี้ชื่อ “โดมินิค คัมมิ่งส์” รายละเอียดของเรื่องนี้ WorkpointToday จะสรุปให้ฟัง
1. โดมินิค คัมมิ่งส์ เป็นนักการเมืองพรรคอนุรักษ์นิยม เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ และที่ผ่านมาก็เป็นหัวใจสำคัญในการทำงานของรัฐบาล ตั้งแต่นายบอริสเข้ามาเป็นนายกฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2019
2. อังกฤษเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักที่สุดในโลก เมื่อนับถึงวันนี้อังกฤษเป็นชาติในยุโรปที่มีผู้ติดเชื้อต่อประชากรสูงที่สุด และที่ผ่านมาก็ถูกวิจารณ์ว่าตัดสินใจช้าและไม่เด็ดขาด
3. วันที่ 23 มีนาคม อังกฤษประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ห้ามประชาชนเดินทางโดยไม่จำเป็น และลงโทษคนที่ละเมิดคำสั่งนี้ โดยมีนายกฯ บอริส จอห์นสัน เป็นคนออกมาแถลงเสียงแข็ง
4. วันที่ 27 มีนาคม อังกฤษแถลงข่าวใหญ่ เมื่อบอริส จอห์นสันติดเชื้อโควิด-19 เช่นเดียวกับรัฐมนตรีสาธารณสุขแมตต์ แฮนค็อก – ในวันเดียวกัน สื่อเก็บภาพโดมินิค คัมมิ่งส์ วิ่งออกจากบ้านหมายเลข 10 ที่ทำงานของนายกฯ มีรายงานว่าเขาเดินทางไปดูแลภรรยาและลูกที่เมืองเดอรัม
5. วันที่ 28 มีนาคม ระหว่างที่โดมินิคพำนักอยู่ที่บ้านที่เดอรัม เขาก็เริ่มมีอาการป่วย โดยภรรยาของเขาเป็นคนรายงานเองว่าเขาเริ่มรู้สึกไม่ปกติในช่วงสุดสัปดาห์
6. ในวันที่ 31 มีนาคม ตำรวจเดอรัม ได้รายงานยืนยันว่าโดมินิคเดินทางมาที่เดอรัม โดยชี้แจงว่า
“เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และยืนยันว่าเจ้าตัวพำนักอยู่ที่นี่ แต่ได้ใช้ชีวิตภายใต้มาตรการการกักตัวที่รัฐบาลได้วางมาตรการเอาไว้”
นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังให้คำแนะนำอย่างเคร่งครัดให้ใช้ชีวิตภายใต้มาตรการนี้
7. เมืองเดอรัมอยู่ห่างจากลอนดอน 423 กิโลเมตร – แม้ว่าจากรายงานของตำรวจจะบอกว่าโดมินิคปฏิบัติตนอยู่ในกรอบมาตรการที่เหมาะสม แต่คนก็วิจารณ์ว่าเอาแค่เดินทางจากลอนดอนไปเดอรัมก็ไม่เหมาะสมแล้ว เพราะหนึ่งในมาตรการของรัฐบาลก็คือห้ามเดินทางถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ
8. มีคนเห็นโดมินิคที่เดอรัมในวันที่ 5 เมษายน นั่นเท่ากับว่าเขากลับไปใช้ชีวิตที่เดอรัมนานอย่างน้อย 10 วันแล้ว ระหว่างนี้เขาได้เขียนผ่านบทความว่าเขาและภรรยา “มีอาการป่วยหนัก เราทั้งสองคนลุกออกจากเตียงไม่ไหวด้วยซ้ำ” เขาปรากฎตัวที่ลอนดอนอีกครั้งในวันที่ 14 เมษายน
9. ประเด็นสำคัญที่คนวิจารณ์โดมินิค คือเรื่องมาตรฐานการบังคับใช้มาตรการกักตัวของคนที่มีกลุ่มเสี่ยง ในเมื่อนโยบายนี้ออกมาจากปากของรัฐบาล แต่ทำไมคนระดับที่ปรึกษานายกฯ จึงไม่ยอมปฏิบัติตามกฎ แถมยังมีนักการเมืองซีกรัฐบาลออกมาปกป้อง
ไมเคิล กัฟ รัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรี ออกมาทวีตว่า “การแสดงความรักและเป็นห่วงภรรยาและครอบครัว ไม่ใช่อาชญากรรม”
โดมินิค ราบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บอกว่า “ความจำเป็นในการดูแลลูกๆ และครอบครัวเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ แต่คนที่เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมืองนี่แหละ ที่สมควรถูกวิจารณ์”
ซึ่งยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง คนวิพากษ์วิจารณ์หนาหูขึ้น
10. เมื่อเรื่องแดงขึ้น ผู้สื่อข่าวพยายามไปสัมภาษณ์โดมินิค ซึ่งก็ยังไม่ออกมาชี้แจง แถมในคลิปยังมีการแซวนักข่าวด้วยว่าอย่ายืนใกล้กันมาก ให้รักษาระยะห่าง Social Distancing เอาไว้ “คุณควรอยู่ห่างกัน 2 เมตรนะครับ” – ยิ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจเข้าไปใหญ่
11. นักการเมืองฝ่ายค้านออกมาพร้อมใจส่งเสียงเรียกร้องให้โดมินิคลาออก
ราเชล รีฟส์ จากพรรคแรงงานบอกว่า “ที่ผ่านมาประชาชนเสียสละ และยอมร่วมทุกข์กับมาตรการกักตัว ซึ่งรวมถึงการที่ต้องอยู่ห่างจากคนที่ตนเองรักด้วยเช่นกัน รัฐบาลก็ควรจะใช้กฎเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง”
กระทั่งสื่อที่ปกติจะสนับสนุนรัฐบาลอย่างเดอะ สเป็กเตเตอร์ (The Spectator) ก็เริ่มออกมาเตือนผลร้ายที่เกิดขึ้น เพราะทุกครั้งที่มีการประกาศให้ประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” คนก็จะย้อนกลับไปยังกรณีของโดมินิคทันที ว่าทีที่ปรึกษานายกฯ ยังไม่ทำ แล้วจะมาร้องขอประชาชน แบบนี้มันเหมาะสมหรือไม่
12. โดมินิคยืนยันว่าที่ผ่านมา แม้จะเดินทางไปเดอรัม แต่เขาก็ปฏิบัติตนตามมาตรการล็อกดาวน์ตลอด ไม่ได้มีจุดไหนผิด และยืนยันไม่ลาออก ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ยังไม่ออกมาชี้แจงอะไรในเรื่องนี้ ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายโดมินิคจะทานกระแสวิจารณ์ได้มากแค่ไหน
ในบทเรียนสำคัญว่าเมื่อรัฐบาลเรียกร้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมช่วยเหลือแล้ว การทำตัวเป็นแบบอย่างก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระหว่างที่ดูแลรักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19










