นักกิจกรรมฝ่ายประชาธิปไตยฮ่องกงที่โดนจับกุมในคดีละเมิดกฎหมายความมั่นคง ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีแล้ว หลังจากที่ส่วนใหญ่ถูกจับขังเป็นเวลา 2 ปีโดยไม่ให้ประกันตัว จากการจัดไพรมารีโหวตเพื่อหาผู้แทนไปลงเลือกตั้ง
ฮ่องกงเริ่มการพิจารณาคดี ‘ฮ่องกง 47’ ซึ่งเป็นคดีความมั่นคงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในวันนี้ (6 ก.พ. 2023) มีจำเลยถูกตั้งข้อหารวม 47 ราย ในข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคง ที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่นำมาบังคับใช้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาคดี 90 วัน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยในฮ่องกงได้จัดให้มีการลงคะแนนเบื้องต้น เพื่อคัดเลือกผู้แทนไปลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือที่เรียกว่า ‘ไพรมารีโหวต’ ซึ่งเป็นกระบวนการปกติทั่วไปของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ที่พรรคการเมืองจะทำการเลือกตั้งเบื้องต้น เพื่อให้ได้ตัวแทนไปลงสมัคร ส.ส.
โดยในการลงคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในครั้งนั้น มีผู้ร่วมออกเสียงราว 600,000 คน ซึ่งทางการฮ่องกงมองว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเจตนาร้ายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อขัดขวางการทำงานของรัฐบาล และขัดต่อกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ จนนำมาซึ่งการจับกุมครั้งใหญ่เมื่อต้นปี 2021
นับตั้งแต่นั้นมา จำเลยส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธการประกันตัว และต้องใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำเป็นเวลา 2 ปี โดยเพิ่งจะมีการนำคดีดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในวันนี้
โดยใน 47 คนที่ถูกจับกุม มี 31 คนที่ยอมสารภาพผิดในข้อหาดังกล่าว รวมถึง โจชัว หว่อง หนึ่งในนักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยของฮ่องกง แต่บุคคลเหล่านั้นก็ยังคงไม่ได้รับการตัดสินจนกว่าการพิจารณาคดีทั้งหมดจะเสร็จสิ้น
สำหรับการเลือกตั้งฮ่องกงในปัจจุบันนั้น มีการนำระบบเลือกตั้งแบบใหม่เข้ามาใช้ โดยกำหนดให้ผู้สมัครต้องเป็นคนที่รัฐบาลปักกิ่งมองว่าเป็น “ผู้รักชาติ” เท่านั้น จึงจะอนุญาตให้ลงสมัครได้ ภายใต้ระบอบ “ผู้รักชาติปกครองฮ่องกง” หลังจากจีนใช้อำนาจกดดันผู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
https://www.aljazeera.com/news/2023/2/6/landmark-trial-of-hong-kong-47-begins-amid-tight-security
