ฮ่องกงยกเลิกบังคับสวมหน้ากากอนามัย มีผลตั้งแต่ 1 มี.ค. นี้

ฮ่องกงยกเลิกบังคับสวมหน้ากากอนามัย มีผลตั้งแต่ 1 มี.ค. นี้

ฮ่องกงยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัย เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. นี้ หลังประกาศใช้มานาน 3 ปี หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เสียหายหนักจากโควิด-19 

นายจอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง แถลงในวันนี้ (28 ก.พ.) ว่า ฮ่องกงจะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและธุรกิจ รวมถึงให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง หลังอยู่ภายใต้ข้อบังคับเข้มงวดมานานกว่า 3 ปี 

โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. เป็นต้นไป ส่งผลให้ฮ่องกงนับเป็นดินแดนล่าสุดในโลก ที่ยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยเพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 

“เราคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการตัดสินใจ นี่เป็นข้อความที่ชัดเจนที่แสดงให้เห็นว่าฮ่องกงกำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ” นายลีกล่าว 

อย่างไรก็ตาม นายลีระบุว่า สำหรับสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงพยาบาล ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ว่า ต้องการให้พนักงานและผู้มาติดต่อสวมหน้ากากอนามัยต่อไปหรือไม่ 

ทั้งนี้ ฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน ได้ปฏิบัติตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ส่วนใหญ่เมื่อปีที่แล้ว แต่ยังคงบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยอยู่ โดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 1,000 ดอลลาร์ฮ่องกง 

การประกาศยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยของฮ่องกงมีขึ้น หลังจากเมื่อวันที่ 26 ก.พ. มาเก๊าเพิ่งออกมาประกาศยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ส่วนใหญ่ ยกเว้นในระบบขนส่งสาธารณะ โรงพยาบาล และสถานที่เสี่ยงสูงต่างๆ 

นายโล เหมา-เฉิง รัฐมนตรีสาธารณสุขฮ่องกง ระบุว่า การยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยครั้งนี้ ถือเป็นการยกเลิกข้อกำจัดการควบคุมการระบาดทั้งหมดแล้ว 

“ตอนนี้ผมรอคอยที่จะได้เห็นรอยยิ้มของทุกคน” นายเหมา-เฉิง ระบุ อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขฮ่องกงยังคงแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ที่ความเสี่ยงสูง เช่น บ้านพักคนชรา และโรงพยาบาล 

 

ที่มา : Channel News Asia, CNN

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง