วันที่ 7 เม.ย. สำนักข่าวเอ็นเอชเครายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่นได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือนในพื้นที่ 7 เขต ได้แก่ กรุงโตเกียว, จังหวัดโอซากา, คานางาวะ, ชิบะ, ไซตามะ, ฟูกุโอกะ และเฮียวโงะ ที่มีประชากรทั้งหมดคิดเป็นร้อยละ 44 ของประชากรทั้ประเทศ เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม
การประกาศครั้งนี้ จะให้อำนาจผู้ว่าราชการของทุกจังหวัดสามารถร้องขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านได้ แต่ไม่ระบุถึงบทลงโทษของผู้ที่ฝ่าฝืน ผู้ว่าการจังหวัดยังสามารถขอร้องผู้อยู่อาศัยให้ปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดยิ่งขึ้นไปอีก
ผู้ว่าราชการยังได้รับอำนาจในการสั่งปิดโรงเรียน โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ต่างๆ ที่มีประชาชนใช้บริการจำนวนมาก ส่วนบริการที่มีความจำเป็น เช่น บริการขนส่ง ธนาคาร ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ จะได้รับอนุญาตให้เปิดบริการได้ ประกาศนี้ยังมอบอำนาจให้ผู้ว่าการจังหวัดสามารถใช้พื้นที่และอาคารต่าง ๆ โดยไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของที่เพื่อสร้างสถานที่รักษาพยาบาลชั่วคราวได้
ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น อนุมัติวงเงินตามแผนกระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 108 ล้านล้านเยน หรือราว 32.62 ล้านล้านบาท เพื่อช่วยครัวเรือนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่รวมถึงการแจกเงินครัวเรือนละ 300,000 เยน หรือราว 90,000 บาท และอีก 2 ล้านเยน หรือราว 6 แสนบาท แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
รัฐบาลญี่ปุ่นเผชิญแรงกดดันที่จะประกาศมาตรการดังกล่าว เพราะจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจอย่างหนัก แต่เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกรุงโตเกียว ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่พบผู้ติดเชื้อเฉพาะในกรุงโตเกียวมากกว่า 100 คนเป็นครั้งแรก ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดเพิ่มสูงเกือบ 4,000 รายแล้ว









