สาธารณสุขญี่ปุ่นเผยผู้ชายอายุ 12-29 ปี เสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนโมเดอร์นามากที่สุด ยอมเปิดทางให้เปลี่ยนไปฉีดไฟเซอร์แทนได้
วันที่ 25 พ.ย. 2564 สถานีข่าว NHK รายงานข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น ที่พบว่าผู้ชายอายุ 12-29 ปี มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ โมเดอร์นา (Moderna) สูงกว่าที่เกิดในผู้ฉีดวัคซีนของ ไฟเซอร์ (Pfizer) อย่างมีนัยสำคัญ
จากการเก็บสถิติจนถึงวันที่ 12 พ.ย. พบว่า มีรายงานอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเกิดขึ้นในผู้ชายอายุ 12-19 ปีหลังฉีดโมเดอร์นาในสัดส่วน 60 ต่อ 1 ล้านราย และผู้ชายอายุ 20-29 ปีในสัดส่วน 40 ต่อ 1 ล้านราย
ซึ่งเมื่อเทียบกับผู้ชายในกลุ่มอายุเดียวกันที่ฉีดไฟเซอร์แล้ว พบว่ามีโอกาสเกิดเพียงไม่ถึง 10 ต่อ 1 ล้านราย
ส่วนในกลุ่มผู้หญิง ทั้งกลุ่มที่ฉีดไฟเซอร์และกลุ่มที่ฉีดโมเดอร์นา มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในสัดส่วนเพียง 1-2 ราย ต่อ 1 ล้านรายเท่านั้น
ปกติแล้ว ญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้มีการฉีดไขว้ยี่ห้อวัคซีน ก็คือถ้าหากฉีดเข็มแรกเป็นยี่ห้อใด ก็ต้องฉีดยี่ห้อนั้นเป็นเข็มที่ 2 ด้วย
แต่จากตัวเลขล่าสุดที่เปิดเผยออกมา ทำให้กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นอนุญาตให้ผู้ชายในกลุ่มอายุ 12-29 ปี ที่ฉีดโมเดอร์นาไปแล้วเป็นเข็มแรก สามารถเปลี่ยนมาฉีดวัคซีนเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์ได้
ปัจจุบันญี่ปุ่นใช้วัคซีนทั้งหมด 3 ยี่ห้อด้วยกัน คือ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และแอสตร้าเซนเนก้า โดยจะใช้ไฟเซอร์ตามคลิกนิกและส่วนท้องถิ่นต่างๆ ส่วนโมเดอร์นาจะใช้ในองค์กรและมหาวิทยาลัย ขณะที่แอสตร้าเซนเนก้าจะใช้ในส่วนท้องถิ่นเฉพาะกับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
ก่อนหน้านี้ ทางโมเดอร์นาเคยออกมายอมรับว่า วัคซีนของบริษัทมีโอกาสทำให้เกิดผลข้างเคียงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบสูงขึ้นกว่าไฟเซอร์ราว 10 ใน 100,000 คนที่ได้รับวัคซีน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลของทางสาธารณสุขญี่ปุ่นแล้ว พบว่าข้อมูลที่ออกมาเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
