รัฐบาลญี่ปุ่นรับอาจจำเป็นต้องทิ้งวัคซีนไฟเซอร์จำนวนหนึ่ง เนื่องจากมีเข็มฉีดยาแบบเฉพาะไม่เพียงพอ
วันที่ 9 ก.พ. 2564 สำนักข่าว เคียวโดนิวส์พลัส (Kyodo News+) รายงานว่า ประชาชนชาวญี่ปุ่นอาจได้รับวัคซีนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก จากปัญหาขาดแคลนเข็มฉีดยาชนิดพิเศษ ทำให้ดูดวัคซีนออกมาจากขวดได้น้อยกว่าที่ประเมินไว้
โนริฮิสะ ทามูระ รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังขาดแคลนเข็มฉีดยาที่เรียกว่า low dead space syringes ที่ทำให้เหลือยาค้างในเข็มน้อยกว่าเข็มฉีดยาแบบทั่วไป โดยหากใช้เข็มตัวนี้กับขวดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ (Pfizer) จะสามารถดูดตัววัคซีนได้ถึง 6 เข็ม
แต่เมื่อเข็มฉีดยาชนิดนี้มีไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องใช้เข็มฉีดยาแบบทั่วไปแทน ซึ่งจะทำให้ดูดวัคซีนออกมาได้เพียง 5 โดสต่อขวด หากต้องใช้เข็มฉีดยาทั่วไป จำนวนวัคซีนที่เตรียมไว้สำหรับฉีดให้ประชากร 72 ล้านคน จะลดลงเหลือเพียง 60 ล้านคนเท่านั้น
นายทามูระเผยว่า เข็มฉีดยาในญี่ปุ่นสามารถดูดวัคซีนออกมาเพียง 5 โดส แม้ว่าตอนนี้ทางสาธารณสุขจะพยายามหาเข็มฉีดยาทั้งหมดที่ดูดได้ 6 โดสมาใช้ แต่ในระยะยาวแล้วมีไม่พออย่างแน่นอน
เดือนที่แล้วทางสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐอเมริกาและประเทศในสหภาพยุโรปกำลังเร่งหาเข็มฉีดยาแบบ low dead space เข้ามาใช้งานเช่นกัน
การที่ญี่ปุ่นเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ช้ากว่าหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้พวกเขาไม่เหลือทางเลือกมากนัก นอกจากการใช้เข็มฉีดยาที่มีอยู่และยอมทิ้งวัคซีนโดสที่ 6 ในแต่ละขวดไปก่อน โดยคาดว่าจะอนุมัติให้ใช้งานวัคซีนไฟเซอร์ในกรณีฉุกเฉินได้ในวันที่ 15 ก.พ.
จากนั้นจะเริ่มฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุขในวันที่ 17 ก.พ. ส่วนประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 36 ล้านคน น่าจะเริ่มฉีดในเดือนเมษายน










