นักกิจกรรมชาวฮ่องกง 3 รายให้การรับสารภาพต่อศาล ในคดีชุมนุมเมื่อปีที่แล้ว ก่อนถูกควบคุมตัวรอคำพิพากษาในวันที่ 2 ธ.ค.

Pro-democracy activists (L-R) Agnes Chow, Ivan Lam and Joshua Wong arrive for their trial at West Kowloon Magistrates Court in Hong Kong on November 23, 2020, on unauthorised assembly charges in relation to protests in 2019. (Photo by Peter PARKS / AFP)
วันที่ 23 พ.ย. 2563 เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ (New York Times) รายงานว่า โจชัว หว่อง นักกิจกรรมชาวฮ่องกง และเพื่อนอีก 2 คน คือ แอกเนส โจว และ อีวาน แลม ให้การรับสารภาพต่อศาลในคดีจัดการชุมนุมและชักชวนให้เข้าร่วมชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการชุมนุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว
ทั้ง 3 คนเป็นอดีตสมาชิกของกลุ่มเดโมลิสโต (Demolisto) กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยที่ประกาศยุบไปหลังจากทางการนำกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่มาใช้
[Msg before the court hearing]
1/ On June 17 last year, it was the day after 2m of freedom-seeking HKers took to the street and called for the withdrawal of the evil law. I was released for the third time in my life on that day. More than one year, I now once again face 3 cases. pic.twitter.com/NoqGshWLRT
— Joshua Wong 黃之鋒 😷 (@joshuawongcf) November 22, 2020
นายหว่องเผยผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า หลังจากปรึกษากับทีมกฎหมายแล้ว เขาและเพื่อนอีกสองคนจะให้การรับสารภาพ พร้อมระบุว่าข้อหาที่เขาโดนนั้นถือว่าเล็กน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับชาวฮ่องกงกว่า 2,000 คนที่ถูกดำเนินคดี รวมถึงชาวฮ่องกง 12 คนที่ปัจจุบันถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศจีน
ในทวีตดังกล่าว นายหว่องคาดว่าหลังจากให้การสารภาพแล้ว จะข้ามขั้นตอนไปสู่การอ่านคำพิพากษาทันที แต่ทว่าศาลกลับสั่งควบคุมตัวไว้ก่อนเพื่อรออ่านคำพิพากษาในวันที่ 2 ธ.ค.
นายหว่องที่ก่อนหน้านี้เคยได้รับโทษจำคุกมาแล้ว 3 ครั้ง เปิดเผยว่าเขาพร้อมแล้วที่จะกลับสู่เรือนจำอีกครั้ง โดยมองว่าเจ้าหน้าที่อาจต้องการให้เขาเข้าออกเรือนจำต่อไปเรื่อยๆ แต่การคุมขัง การห้ามไม่ให้ลงเลือกตั้ง และอำนาจที่ไร้เหตุผลจะไม่สามารถหยุดการเรียกร้องของพวกเขาได้
จาก 3 คดีที่โดนฟ้องในครั้งนี้ พวกเขาให้การรับสารภาพ 2 คดี และยืนยันความบริสุทธิ์ในอีก 1 คดีคือ การเข้าร่วมชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต คาดว่าพวกเขามีโอกาสโดนโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี
“กรงอาจขังร่างกายพวกเราไว้ แต่จะไม่มีวันขังจิตวิญญาณที่แน่วแน่ได้ วันหนึ่งความไม่ย่อท้อของพวกเราจะกลับมา และทำให้เราได้รวมตัวกันอีกครั้ง” นายหว่องทวีตทิ้งท้าย










