การทดสอบมิสไซล์ของเกาหลีเหนือ มีขึ้นก่อนที่ผู้นำญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะหารือนอกรอบในการประชุมนาโตที่ลิทัวเนีย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในช่วงเช้าวันที่ 12 ก.ค. 2566 ว่า พบการยิงขีปนาวุธไม่ทราบชนิดจากเกาหลีเหนือลงสู่ทะเลทางฝั่งตะวันออก ห่างจากเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น 550 กิโลเมตร
โดยการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ ห่างจากครั้งก่อนไม่ถึง 1 เดือน โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ฮิโรคาสุ มัตสุโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยืนยันว่า ขีปนาวุธลูกดังกล่าวใช้เวลาบิน 74 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานที่สุดเท่าที่เกาหลีเหนือเคยปล่อยขีปนาวุธ และบินที่ความสูง 6,000 กิโลเมตร ระยะทาง 1,000 กิโลเมตร
มีการตั้งข้อสังเกตว่า การปล่อยขีปนาวุธเกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ 1 วัน เกาหลีเหนือได้ออกมาตำหนิสหรัฐฯ ถึงการส่งเครื่องบินตรวจการณ์เข้าไปในน่านฟ้าเหนือเขต EEZ ของเกาหลีเหนือ
รวมถึงเป็นช่วงที่ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ของเกาหลีใต้ และ นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น มีแผนที่จะหารือนอกรอบ ในประเด็นภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ที่ประเทศลิทัวเนีย
หลังจากมีรายงานออกมา ผู้นำเกาหลีใต้ได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และมีแถลงการณ์จากทางทำเนียบประธานาธิบดีว่า กองทัพเกาหลีใต้ยังคงร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการป้องกันร่วมกัน ซึ่งสามารถยับยั้งและตอบโต้ภัยคุกคามใดๆ ก็ตามจากทางเกาหลีเหนือ
ในแถลงการณ์ยังระบุว่า เป็นที่แน่ชัดว่าการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออย่างผิดกฎหมาย จะนำไปสู่การตอบโต้และการคว่ำบาตรที่รุนแรงยิ่งขึ้นจากนานาชาติ และการกระทำของเกาหลีเหนือนั้นมีราคาที่จะต้องจ่าย
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ยังได้สั่งการให้ขยายความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งรวมไปถึงการแชร์ข้อมูลระบบเตือนขีปนาวุธแบบเรียลไทม์ และการฝึกซ้อมแบบไตรภาคีในด้านการป้องกันขีปนาวุธทางทะเล










