เกาหลีเหนือกดดันองค์การสหประชาชาติ ออกมาเรียกร้องสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ให้ยุติการซ้อมรบทันที ก่อนสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีจะวิกฤตเกินควบคุม
นายคิม ซอน คยอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ แถลงผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลเกาหลีเหนือ เรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ (UN) และประชาคมโลก ร่วมกันเรียกร้องอย่างจริงจัง ให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ยุติการร่วมซ้อมรบ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เป็นการข่มขู่และยั่วยุเกาหลีเหนือในทันที เพราะจะยิ่งเป็นการยกระดับความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีจนอาจสู่ระดับที่เหนือการควบคุม
“การกระทำของสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เป็นการยกระดับการเผชิญหน้าอย่างไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งมีแต่จะทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคเข้าสู่ระดับวิกฤต และจะไม่สามารถควบคุมได้” นายคิมระบุในถ้อยแถลง พร้อมกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจที่องค์การสหประชาชาติเพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่แสดงความก้าวร้าวอย่างชัดเจนของชาติทั้งสอง
ถ้อยแถลงของนายคิม มีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ (3 มี.ค.) สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ประกาศจะดำเนินการฝึกซ้อมทางทหารครั้งใหญ่ เป็นเวลากว่า 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-23 มี.ค. โดยให้เหตุผลว่า เป็นการฝึกซ้อมเพื่อป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ (4 มี.ค.) รัฐบาลเกาหลีเหนือยังออกมากล่าวโทษสหรัฐฯ ว่าเป็นต้นเหตุการล่มสลายของระบบควบคุมอาวุธระหว่างประเทศ และระบุว่า อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นแนวทางแน่นอนที่สุดในการตอบสนองอย่างยุติธรรมเพื่อรับประกันดุลอำนาจในภูมิภาค
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์วิพากษ์วิจารณ์ท่าทีขององค์การสหประชาชาติมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยกล่าวถึงนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ว่า “วางตัวไม่เป็นกลาง และไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง” ต่อสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี
ที่มา : Reuters, Al Jazeera










