
มุน แจ-อิน ประธานาธิบดี แห่งเกาหลีใต้
ประธานาธิบดี มุน แจ-อิน แห่งเกาหลีใต้ ประกาศยกระดับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เป็นระดับสูงสุด หลังมียอดผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 602 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 6 ราย
เมื่อวันที่ 23 ก.พ.63 ประธานาธิบดี มุน แจ-อิน แห่งเกาหลีใต้ ประกาศยกระดับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 เป็นระดับสูงสุด ซึ่งจะเป็นการยกระดับการดำเนินการโดยทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ในการควบคุมการแพร่กระจายของโรคดังกล่าวให้เร็วที่สุด โดยเขาระบุว่าในช่วงอีกไม่กี่วันหลังจากนี้ สถานการณ์ในเกาหลีใต้จะเข้าสู่ระยะวิกฤตอย่างหนัก
หลังจากเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 169 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 602 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจำนวนนี้อย่างน้อย 309 คน มีความเกี่ยวข้องกับลัทธิชินชอนจี ซึ่งการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับประชาชนที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาในโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองแทกู ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโซล ราว 240 กิโลเมตร
และล่าสุด กรมควบคุมโรคของเกาหลี รายงานสถานการณ์สรุปยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ล่าสุดเพิ่มเป็น 6 ราย

ทั้งนี้ จุดเชื่อมโยงของยอดผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้ที่มีจำนวนมากต้นตอเกิดขึ้นจากสถานที่ 2 แห่ง โดยที่แรกคือโบสถ์ของลัทธิชินชอนจี ซึ่งมีความเชื่อเกี่ยวกับวันสิ้นโลก ความเป็นอมตะ เชื่อว่าผู้ศรัทธาจะไม่เจ็บป่วย โดยข้อมูลจากทางการเปิดเผยว่า มีสมาชิกหลายร้อยคนของลัทธิชินชอนจี ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เริ่มต้นจากหญิงวัย 61 ปีที่มีไข้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 แต่กลับไปเข้าร่วมพิธีของคริสตจักรอย่างน้อย 4 ครั้ง ก่อนจะเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลด้วยอาการไข้สูงต้องสงสัย แต่กลับไม่ยอมรับการตรวจหาเชื้อโควิด19 แบบคัดกรอง จนในที่สุดป่วยหนักขึ้นจึงยอมตรวจ สุดท้ายได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 จนเสียชีวิตในที่สุด
ซึ่งล่าสุดกองควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี ได้กักบริเวณสมาชิกของโบสถ์ชินชอนจีในเมืองแทกูแล้วราว 10,000 คน ที่สถานที่ซึ่งทางการจัดเตรียมไว้ และ ยังมีสมาชิกลัทธินี้อีกราว 670 คน ที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว
ด้านผู้นำลัทธิชินชอนจิ ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษสังคมและประกาศระงับกิจกรรมทั่วประเทศอย่างไม่มีกำหนดแล้ว
จุดเชื่อมโยงแห่งที่ 2 คือ โรงพยาบาลแดนัม ในเมืองชองโด ใกล้กับเมืองแทกู เป็นสถานที่ซึ่งพบผู้เสียชีวิตคนที่ 1 และ คนที่ 4 ตอนนี้มีการปิดโรงพยาบาลแห่งนี้ชั่วคราว พร้อมทั้งกักบริเวณบุคลากรการแพทย์ และผู้ป่วยทุกคนซึ่งรักษาตัวอยู่ที่นี่









