ทหารซูดานเปิดศึกชิงอำนาจ ปะทะเดือดกลางกรุงคาร์ทูม ดับแล้ว 56 ราย มีพลเรือนเสียชีวิตด้วย

ทหารซูดานเปิดศึกชิงอำนาจ ปะทะเดือดกลางกรุงคาร์ทูม ดับแล้ว 56 ราย มีพลเรือนเสียชีวิตด้วย

กองทัพซูดานและกองกำลังกึ่งทหารที่เคยร่วมกันทำรัฐประหาร ยึดอำนาจผู้นำเผด็จการ โอมาร์ อัล-บาเชียร์ เปิดศึกชิงอำนาจกลางกรุงคาร์ทูม ปะทะเดือดจนทหารและพลเรือนเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 56 ราย ได้รับบาดเจ็บเกือบ 600 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน หลังเกิดการต่อสู้รุนแรงระหว่างกองทัพกับกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารที่ไม่ได้สังกัดกองทัพ ต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.)

ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการปะทะแล้วอย่างน้อย 56 ราย และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 595 ราย ขณะที่ยังคงมีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังอยู่เป็นระยะๆ ทั่วกรุงคาร์ทูม และพื้นที่โดยรอบ  

การปะทะกันระหว่างกองทัพซูดานกับกองกำลัง RSF เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายเจรจากันเกี่ยวกับการควบรวมกำลังพลของ RSF ที่มีอยู่กว่า 100,000 นาย เข้าไว้ในกองทัพ แต่ไม่สามารถตกลงกันว่าจะให้ฝ่ายใดมาเป็นผู้ดูแลกระบวนการนี้ ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างทั้งสองที่ยืดเยื้อมานาน หลังจากที่เคยร่วมกันทำรัฐประหาร ล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาเชียร์ เมื่อปี 2562

ความตึงเครียดเริ่มปะทุมากขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลัง RSF ส่งกำลังพลไปประจำการในพื้นที่ต่างๆ โดยไม่มีการแจ้งให้กองทัพรับรู้ ทำให้กองทัพซูดานออกมาตำหนิว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่เป็นภัยคุกคามต่อกองทัพ  

จนเมื่อวันเสาร์ (15 เม.ย.) มีรายงานว่ามีผู้พบเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากสถานที่ต่างๆ ในกรุงคาร์ทูม พร้อมเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นใกล้กับฐานที่มั่นของ RSF ทางตอนใต้ของเมือง โดยมีทหารเคลื่อนกำลังพลไปตามท้องถนน ทำให้ประชาชนต้องวิ่งหาที่กำบังกันอลหม่าน

อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าฝ่ายใดเปิดฉากโจมตีก่อน แต่ RSF อ้างว่ากองทัพเป็นฝ่ายเริ่ม และทางกลุ่มสามารถยึดทำเนียบประธานาธิบดี สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ สนามบิน รวมถึงบ้านพักของผู้บัญชาการกองทัพไว้ได้ 

ขณะที่กองทัพออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว พร้อมทั้งขึ้นบัญชีดำ RSF เป็นกลุ่มก่อการร้าย และประกาศเดินหน้าปราบปรามกองกำลังนี้จนกว่าจะยอมสลายตัวทั้งหมด โดยไม่มีการเจรจาใดๆ  

ด้านนานาชาติได้ออกแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในซูดาน ทั้งสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป รวมถึงองค์การสหประชาชาติ (UN) ต่างเรียกร้องให้ยุติการสู้รบทันที 

 

ที่มา Reuters, Al Jazeera

 

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง